พาณิชย์ กางปฏิทินกิจกรรมส่งออกครึ่งปีหลังปั้มยอดส่งออก
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รับลูก “จุรินทร์” ขับเคลื่อนการส่งออกครึ่งปีหลัง 2564 เตรียมลุยจัดกิจกรรมเพิ่มยอดออนไลน์ ทั้งงานแสดงสินค้าเสมือนจริง งานแสดงสินค้าในรูปแบบ Mirror Mirror จัดเจรจาธุรกิจออนไลน์ เร่งเจาะตลาดใหม่ ฟื้นใหม่ ฟื้นตลาดเดิม
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับนโยบายขับเคลื่อนการส่งออกของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยได้เตรียมแผนผลักดันการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 โดยจะเน้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกในรูปแบบออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริงและไฮบริด การจัดงานแสดงสินค้าและการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศในรูปแบบ Mirror Mirror การเจรจาการค้าออนไลน์ (Online Business Matching - OBM) รวมถึงการจัดกิจกรรมในรูปแบบออฟไลน์ในบางประเทศที่เป็นเป้าหมายการส่งออก
สำหรับการจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริงและไฮบริด ได้จัดงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair ในรูปแบบเสมือนจริงไปแล้วเมื่อวันที่ 22-24 มิ.ย.2564 กำลังจะจัดงาน THAIFEX Virtual Trade Show และ THAIFEX Anuga Asia 2021 ในรูปแบบ Hybrid ณ อิมแพค เมืองทองธานี วันที่ 29 ก.ย.–3 ต.ค. 2564 และงาน THAILOG LOGISTIX Virtual Exhibition และกำหนดจัดงานแสดงสินค้าไทยในต่างประเทศในรูปแบบ Mirror Mirror กำหนดจัดงาน TOP Thai Brands / Thailand Week / Mini Thailand Week รวม 15 งาน ที่กัมพูชา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เมียนมา อินเดีย และบังคลาเทศ และเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในต่างประเทศ ในรูปแบบ Mirror-Mirror เช่น ดิจิทัลคอนเทนต์ เข้าร่วมงาน Connect TechAsia 2021 ณ สิงคโปร์ , American Film Market (online) และ Global Game Exhibition G-Star 2021 ณ ปูซาน เกาหลีใต้ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ยานยนต์ เข้าร่วมงาน APPEX ณ ลาสเวกัส , งาน Automechanika ณ ดูไบ UAE และอาหาร เข้าร่วมงาน Fine Food Australia , The 18th CAEXPO (China-ASEAN Expo) ณ นครหนานหนิง และงาน CIIE (China International Import Expo) ณ นครเซี่ยงไฮ้) เป็นต้น
ส่วนการจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์ (OBM) ระหว่างผู้ซื้อ/ผู้นำเข้าในต่างประเทศ ผ่านการนัดหมายโดยทูตพาณิชย์ กับผู้ส่งออกไทย กำหนดจัด 6 ครั้ง ได้แก่ คอนเทนต์ Y วันที่ 29-30 มิ.ย.2564 อาหารสัตว์เลี้ยง วันที่ 3-5 ส.ค.คม 2564 สินค้าอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องมือแพทย์ ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม สินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และลาตินอเมริกา วันที่ 3 ส.ค. 2564 ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง วันที่ 26-27 ส.ค.2564 ชิ้นส่วน อะไหล่ และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ วันที่ 7-9 ก.ย. 2564 และเครื่องมือแพทย์ เดือนก.ย. 2564
ทั้งนี้ จะมีการจัดจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ร่วมกับผู้นำเข้า ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาเก็ต และแพลตฟอร์มชั้นนำในประเทศเป้าหมาย เช่น งาน Thai Fruits Golden Months in China ในเมืองต่างๆ ของจีน เช่น เซี่ยงไฮ้ กวางโจว ฝอซาน จ้านเจียง อู่ฮั่น ชิงต่าว ต้าเหลียน เซียะเหมิน ฉางซา คุนหมิง เฉิงตู และฉงชิ่ง
นายสมเด็จกล่าวว่า สำหรับแผนการขยายการส่งออกเป็นรายตลาด จะเน้นการรักษาตลาดเดิม เช่น สหรัฐฯ จีน สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เพิ่มเพิ่มตลาดใหม่ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายจุรินทร์ เช่น รัสเซีย มองโกเลีย (ประตูสู่กลุ่มประเทศยูเรเซีย) อินเดีย และแอฟริกาใต้ รวมทั้งฟื้นตลาดเก่าที่เสียไปให้กลับมา เช่น อิรัก และซาอุดิอาราเบีย
ทางด้านสินค้าที่กรมฯ จะเร่งผลักดันการส่งออกสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาดโลกในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ใน 3 กลุ่มหลัก คือ สินค้าเกษตรและอาหาร สินค้าทำงานที่บ้าน และสินค้าป้องกันการติดเชื้อ และผลักดันสินค้าที่ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ของโลก เช่น สินค้าไลฟ์สไตล์ที่พัฒนามาจากของเหลือใช้จากผลผลิตทางการเกษตรและขยะคุณภาพดีจากแหล่งอุตสาหกรรม สินค้าอาหาร เกษตรแปรรูป และสินค้าไม่ใช่อาหาร ที่ได้พัฒนาบรรจุภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบโจทย์ BCG Model สินค้าอาหารอนาคต ได้แก่ อาหารฟังก์ชัน อาหารนวัตกรรมใหม่ อาหารทางการแพทย์ และอาหารอินทรีย์ รวมถึงอาหารฮาลาล สมุนไพร เครื่องสำอาง และสินค้าที่เป็นที่ต้องการรองรับตลาดโลกฟื้นตัว เช่น ชิ้นส่วนอุปกรณ์และส่วนประกอบยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักรกลการเกษตร สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง และธุรกิจบริการมูลค่าสูง ได้แก่ ดิจิทัลคอนเทนต์ (ภาพยนตร์ เกมส์ แอนิเมชัน คาแรคเตอร์) ธุรกิจบริการเพื่อสุขภาพ (wellness) เป็นต้น
สำหรับผลการทำงานในช่วงครึ่งปีแรก 2564 กรมฯ ได้ทำการเชื่อมโยงการทำงานระหว่างทูตพาณิชย์ ในฐานะเซลส์แมนประเทศ กับพาณิชย์จังหวัด ในฐานะเซลส์แมนจังหวัด มีผลการเจรจาการค้าและตกลงซื้อขายแล้ว 21 คู่ มูลค่ารวมกว่า 125 ล้านบาท ในสินค้าผลไม้ อาหาร และโคมไฟ และผลการเจรจาธุรกิจออนไลน์ OBM ได้จัดไปรวม 37 ครั้ง ในสินค้าอาหาร ผลไม้ สินค้าฮาลาล สินค้าเครื่องมือแพทย์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น สร้างยอดขายรวม 5,937.85 ล้านบาท ส่วนผลการจัดโครงการ DITP ยี่ปั๊วออนไลน์ คอนเนค เกิดการเจรจาธุรกิจ 422 คู่ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการไทยสามารถจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำ ทั้งบน Alibaba.com , Amazon , Tmall Global , Bigbasket , DidiGlobal เป็นต้น คาดการณ์มูลค่าการสั่งซื้อไม่ต่ำกว่า 290.28 ล้านบาท โดยสินค้าที่ได้รับความสนใจสูง ได้แก่ ผลไม้สดและแปรรูป อาหารสำเร็จรูป ของตกแต่งบ้านที่ทำจากไม้ สินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าประดับยนต์ เป็นต้น