ผู้ว่าฯ โคราช ออก 10 กฎเหล็ก คุมโควิด-19 ระบาด สั่งปิดสถานที่เพิ่มเติม พร้อมออกคำสั่ง ผู้ "เดินทางข้ามจังหวัด" ถ้าจะเข้าโคราช ต้องรายงานตัว
นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า ล่าสุดวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 26 ราย พบในพื้นที่ อำเภอขามทะเลสอ 1 ราย อำเภอคง 1 ราย อำเภอด่านขุนทด 3 ราย อำเภอบัวใหญ่ 2 ราย อำเภอบัวลาย 1 ราย อำเภอประทาย 1 ราย อำเภอปักธงชัย 4 ราย อำเภอปากช่อง 1 ราย อำเภอพระทองคำ 3 ราย อำเภอเมือง 3 ราย อำเภอสีคิ้ว 4 ราย อำเภอเสิงสาง และอำเภออำเภอหนองบุญมาก 1 ราย รวมยอดสะสม 1,249 ราย รักษาหาย 963 ราย ยังคงรักษา 269 ราย เสียชีวิตสะสม 17 ราย ทางจังหวัดฯ จึงได้ออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด 10 มาตรการ ได้แก่
1. สั่งปิดสถาบันการศึกษาทุกประเภท แบบ On Site ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน-13 กรกฎาคม 2564
2. ออกคำสั่งให้ทุกอำเภอจัดหาสถานที่กักตัว รองรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดแลเข้มงวด ต้องกักตัว ตรวจหาเชื้อโควิด19 พร้อมกับให้ตั้งด่านที่อำเภอปากช่อง และอำเภอสีคิ้ว คัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 15 จังหวัด เข้ามายังจังหวัดนครราชสีมา
3. ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม เปิดตามกำหนดกำหนด ลดจำนวนที่นั่งครึ่งหนึ่ง ไม่แออัด งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแฮลกอฮอล์ในร้าน ส่วนการจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม จัดได้ไม่เกิน 100 คน และต้องขออนุญาตศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) ในพื้นที่รับผิดชอบ และต้องมีมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ส่วนกรณีที่จำเป็นต้องจัดเกิน 100 คน ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ ก่อน
4. หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งทุกมาตรการ มีโทษ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2528 มาตรา 51 ปรับไม่เกิน20,000 บาท ,มาตรา 52 จำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 18 จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท
5. ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กับพื้นที่ควบคุมสูงสุด กรณีมาพักอาศัยระยะยาว เกิน 14 วัน ต้องรายงานตัวภายใน 12 ชั่วโมงกับ อสม. ผู้นำชุมชน หรือ จนท.สาธารณสุขในพื้นที่ และตรวจหาเชื้อโควิด ฟรี พร้อมกับต้องกักตัว 14 วัน ป้องกันการระบาด
6. ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กับพื้นที่ควบคุมสูงสุด กรณีมาพักอาศัยแบบค้างคืนในที่พักภายในจังหวัดนครราชสีมา ให้รายงานกับสถานที่ที่ไปพัก และรับการคัดกรองทุกวัน บันทึกประวัติการเดินทาง ส่งสาธารณสุขอำเภอ และจัดห้องพัก ที่รับประทานอาหารแยกกับผู้พักคนอื่น พร้อมกับห้ามไปในพื้นที่ชุมชน พื้นที่แออัด ห้างร้าน สวนสาธารณะ เป็นต้น ยกเว้นรับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือมีผลตรวจ RT-PCR ผลตรวจไม่เกิน 72 ชั่วโมง
7. ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กับพื้นที่ควบคุมสูงสุด กรณีไป-กลับ ติดต่อราชการหรือปฏิบัติภารกิจอื่นใด ต้องเข้ารับการคัดกรองก่อนและเมื่อปฏิบัติภารกิจเสร็จ ให้เดินทางกลับภูลำเนาโดยเร็ว ซึ่งหากพบอาการผิดปกติ สงสัยติดเชื้อให้รีบส่ง รพ.ทันที
8. แนวทางปฏิบัติผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุม 9 จังหวัด และพื้นที่เฝ้าระวังสูง 53 จังหวัด ต้องรายงานตัวภายใน 12 ชั่วโมง กับ อสม. ผู้ยำชุมชน หรือ จนท.สาธารณสุขในพื้นที่ ก่อนเข้ารับการประเมินความเสี่ยงจาก จนท.ควบคุมโรคติดต่อ
9. ปิดสถานที่บริหารหรือสถานที่เสี่ยง และสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า 100% เมื่ออยู่นอกเคหะสถานหรือเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ
10. สถานที่อื่นที่ไม่ได้ประกาศให้ปิด ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ยังมีการประกาศ ปิด 9 สถานบริการที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ประกอบด้วย 1.สถานบริการ 2.สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ 3.อสบ อบ นวด 4.กิจกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร 5.สนามไก่ชน กัดปลา สถานที่แข่งสัตว์ 6.โต๊ะสนุกเกอร์ บิดเลียด 7.โบว์ลิ่ง ตู้เกมส์ 8.ร้านเกมส์ ร้านอินเตอร์เน็ต และ9.สนามม้า ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ ยังไม่สามารถพูดได้ว่าสามารถควบคุมได้ เนื่องจากมีปัจจัยการระบาดจากภายนอกเข้ามาด้วย ทั้งการเดินทางเข้ามายังจังหวัดของประชาชนทั่วไปและแรงงานที่เดินทางออกจาก กทม. โดยเฉลี่ยมีแรงงานเดินทางเข้ามาในพื้นที่ต่ำกว่า 100 คนต่อวัน ซึ่งได้กำชับให้ทุกพื้นที่ดำเนินการตรวจหาเชื้อทุกราย โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมา อ.โนนสูง อ.สีคิ้ว และ อ.ปากช่อง ซึ่งเป็นอำเภอใหญ่ มักเป็นเป้าหมายของแรงงานที่ต้องการจะเดินทางเข้ามาหางาน จึงต้องเน้นย้ำไปยังนายอำเภอทุกอำเภอ รวมทั้ง ผู้ประกอบให้ตรวจสอบและปฏิบัติตามมาตรการที่ทางจังหวัดกำหนดอย่างเข้มงวด
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ส่วนกรณีที่มีประกาศให้ชาวโคราชที่อยู่นอกจังหวัด และประสงค์จะเข้ามารับการรักษาที่บ้านเกิดใน จ.นครราชสีมาได้นั้น เรื่องนี้ ต้องมองอย่างเป็นธรรม มองถึงความเป็นชาวโคราชด้วยกัน ถ้าพบเห็นคนโคราชเดือดร้อน ก็จำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือ แต่การเปิดรับครั้งนี้ไม่ได้เปิดกว้างทุกคน ให้เฉพาะผู้ที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาที่ติดโควิด-19 และยังไม่มีโรงพยาบาลรักษาเท่านั้น หากรายใดมีโรงพยาบาลรักษาแล้ว ก็ให้รักษาในพื้นที่ในจังหวัดนั้น ๆ ต่อไป เพราะแม้ว่าเราจะมีโรงพยาบาลสนาม พร้อมที่จะเปิดใช้งานในกรณีฉุกเฉินก็ตาม แต่ต้องป้องกันการทะลักเข้ามารักษาที่จังหวัดนครราชสีมาจนมากเกินไป ส่วนประสิทธิภาพการรักษาตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ในจังหวัด ขณะนี้ มีผู้รับการรักษาจากโควิด-19 ในโรงพยาบาล จำนวน 220 เตียง และยังมีเตียงว่างอีกกว่า 700 เตียง แต่จะต้องสำรองเตียงไว้สำหรับชาวโคราชที่อาจจะมีการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย นายกอบชัย ฯ กล่าว.