SIMAT ดันบริษัทลูก 'ฮินซิซึ' เข้าระดมทุนตลาดหุ้นปี 65
SIMAT วางแผนนำ "ฮินซิซึ" บริษัทในเครือ เข้าระดมทุนตลาดหุ้นปี 65 พร้อมกระจายหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการลงทุน เผยแผนลงทุนครึ่งปรหลังที่เหลือ เดินหน้าขยายงานด้านไอที-ลดต้นทุน มั่นใจไตรมาส 3/64 กำไรขั้นต้นเติบโตดีขึ้น
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIMAT เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2564 คาดว่า ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในส่วนของ บริษัท ฮินซิซึ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย รายได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลให้ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้สำนักงาน และสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวสูงขึ้นมาก
ซึ่งอุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นฐานลูกค้าหลักของ “ฮินซิซึ” โดยการเติบโตมาจากทั้งฐานลูกค้าเก่าและฐานลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มแบรนด์สัญชาติเกาหลี นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์จากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน (Trade War) ทำให้กลุ่มลูกค้าส่งคำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นจากเดิมที่สั่งสินค้าจากคู่แข่งในประเทศจีน
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อนำ "ฮินซิซึ" เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งคาดว่า จะสามารถเข้าระดมทุนได้ภายในปี 2565 โดยผู้ถือหุ้น SIMAT จะได้รับสิทธิในการจัดสรรหุ้นเพื่อรักษาสิทธิ (Pre-emptive offering) ตามสัดส่วนการถือหุ้น
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของ SIMAT ปีนี้ ในส่วนธุรกิจวิศวกรรม IT ยังคงเดินหน้าหางานใหม่เข้ามาต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทีมบริหารจะเน้นไปที่การลดต้นทุนการดำเนินงานให้ต่ำลง เนื่องจากเป็นจุดที่สามารถปรับปรุงได้ง่าย และเห็นผลทางตัวเลขได้ทันที โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นต้นทุนที่ลดลงในไตรมาส 3 ปี 2564 เป็นต้นไป
ในส่วนของธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ภายใต้โครงการ SINET บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา กับบริษัท เอฟโอที เอ็มเอสโอ จำกัด (FOT) บริษัทในเครือเจริญเคเบิลทีวี เคเบิลทีวีอันดับ 1 ของประเทศ วัตถุประสงค์เพื่อร่วมพัฒนาธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในโครงการ SINET ในพื้นที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น เป็นต้น โดยเป็นการนำทรัพยากรที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายมาใช้ประโยชน์ร่วมกันเพื่อยกระดับสินค้าหรือบริการทั้งในด้านคุณภาพ และปริมาณ ให้สามารถเกิดความได้เปรียบในการแข่งในตลาดได้
“มั่นใจว่า การร่วมมือพัฒนาธุรกิจกับ FOT ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเจริญเคเบิลทีวี เคเบิลทีวีอันดับ 1 ของประเทศ ถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์ Synergy ครั้งสำคัญ ในส่วนของการบริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์สามารถปรับเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตให้ลูกค้าได้สูงขึ้น การเสริมบริการเคเบิลทีวีที่มีช่องรายการในระบบดิจิทัลกว่า 150 ช่องรายการ รวมไปถึงการเพิ่มบริการจากทางเจริญเคเบิลทีวี ขณะที่ SINET เองก็มีโครงข่ายรองรับการให้เช่นเดียวกัน
โดยเป็นการเพิ่มบริการระบบทีวีดิจิตอลระบบ IPTV Internet Leased Line หรือ Internet ในองค์กรสำหรับลูกค้ากลุ่ม Hospitality (โรงแรม หรือโรงพยาบาล) ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ทางโครงการ SINET มีพื้นที่บริการอยู่แล้ว และเพิ่มโอกาสการเติบโตให้กับเจริญเคเบิลทีวี ในการขยายพื้นที่ให้บริการไปยังจังหวัดหลักๆ ที่สำคัญของประเทศ ถือเป็นการผสานความแข็งแกร่งให้กับทั้งสององค์กรเข้าร่วมกัน”