'เอทิฮัด' บินไฟลต์ปฐมฤกษ์แลนดิ้งสู่ 'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์' ดีเดย์ 1 ก.ค.
สายการบินจากตะวันออกกลาง "เอทิฮัด" ลัดฟ้าเที่ยวบินปฐมฤกษ์แลนดิ้งสู่ "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" นำทัวริสต์ต่างชาติ 25 คน เที่ยวได้ทั่วเกาะภูเก็ตแบบไม่กักตัว
ผู้สื่อข่าว “กรุงเทพธุรกิจ” รายงานจากพื้นที่ จ.ภูเก็ต ว่า สายการบิน “เอทิฮัด” ได้ทำการบินเที่ยวบินปฐมฤกษ์เข้าโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เปิดเมืองภูเก็ตเป็นพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เริ่มวันนี้ (1 ก.ค.) เส้นทางอะบูดาบี-ภูเก็ต เที่ยวบิน EY430 ถึงภูเก็ตแล้วเมื่อเวลา 11.09 น. รวมมีผู้โดยสารจำนวน 25 คน
สำหรับตลอดวันแรกของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จะมี 4 สายการบินให้บริการ นอกเหนือจากสายการบินเอทิฮัดที่ให้บริการเที่ยวบินแรกของวันแล้ว ยังมีสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เส้นทางโดฮา-ภูเก็ต เที่ยวบิน QR840 กำหนดถึงภูเก็ตเวลา 13.30 น., แอล อัล อิสราเอล แอร์ไลน์ เส้นทางเทลอาวีฟ-ภูเก็ต เที่ยวบิน LY87 กำหนดถึงภูเก็ตเวลา 13.45 น. และสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เส้นทางสิงคโปร์-ภูเก็ต เที่ยวบิน SQ736 กำหนดถึงภูเก็ตเวลา 17.10 น.
สำหรับเกณฑ์การรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ตามโครงการ Phuket Sandbox คือ กรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องเดินทางจากประเทศตามประกาศของกระทรวงการต่างประเทศได้รับวัคซีนครบโดสแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน โดยมีเอกสารการรับวัคซีนจากประเทศต้นทางและเป็นวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายไทยหรือที่ WHO รับรอง กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ให้เดินทางมากับผู้ปกครองได้ มีผลการตรวจหาเชื้อ RT-PCR ก่อนการเดินทางไม่เกิน 72 ชั่วโมง และมีหลักประกันโควิด-19 ไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐ ต้องจองและทำการเข้าพักโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA Plus ไม่น้อยกว่า 14 คืน ซึ่งสามารถเดินทางไปในพื้นที่ต่างๆในจังหวัดภูเก็ต ภายใต้มาตรการ D-M-H-T-T-A โดยไม่ต้องกักตัว ทั้งนี้ต้องทำการติดตั้งแอปพลิเคชั่น Morchana (หมอชนะ) บนสมาร์ทโฟน และอนุญาตให้แชร์การเข้าถึงตำแหน่ง
เมื่อถึงสนามบินภูเก็ต ต้องทำการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR และต้องเดินทางไปที่พักด้วยรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน SHA Plus และไม่อนุญาตให้ออกจากห้องพักจนกว่าจะทราบผลตรวจว่าไม่มีการติดเชื้อ รายงานตัวและรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีก 2 ครั้ง ตามเกณฑ์ที่กรมควบคุมโรคกำหนด (วันที่ 6-7 และ 12-13) เมื่อทำการพักในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตครบ 14 วันแล้ว สามารถเดินทางไปยังจังหวัดอื่นได้ หากพักในภูเก็ตไม่ถึง 14 คืน ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยเท่านั้น กรณีนักท่องเที่ยวชาวไทยหรือผู้มีถิ่นพำนักในประเทศไทย ต้องเป็นผู้ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็ม หรือ ครบโดสตามจำนวนวัคซีนแต่ละชนิด หรือได้รับวัคซีนชนิดแอสตร้าเซเนก้า เข็มที่ 1 มาแล้วครบ 14 วัน (สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าจังหวัดได้โดยไม่ต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิด19) หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือ วิธีการ Antigen Test ไม่เกิน 7 วัน หรือเป็นผู้ที่หายจากการป่วยด้วยโรคโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน โดยการแสดงหลักฐานยืนยัน ติดตั้งแอปพลิเคชัน "หมอชนะ" บนสมาร์ทโฟน และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้งตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต อีกทั้ง ต้องสังเกตอาการตนเอง (Self-Monitoring) และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่ชุมชน หรือสถานที่ที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก และให้รักษามาตรการภายใต้ D-M-H-T-T-A