ประมวลภาพความเสียหาย 'โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้'
ประมวลภาพความเสียหาย "โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้" สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง สถานการณ์โดยรอบยังมีเพลิงลุกไหม้และมีกลุ่มควันดำหนาแน่น
เมื่อวันที่ 5 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเกิดเหตุระเบิดภายในโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติกในซอย “กิ่งแก้ว21” ม.15 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ บริเวณบ้านเรือนประชาชนโดยรอบจุดเกิดเหตุ พบว่าได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างจากแรงระเบิดของสารเคมีภายใน "โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้" ผลจากแรงสั่นสะเทือน ทำให้เพดาน ผนังอาคาร กระจก แตกกระจัดกระจาย ขณะที่ประชาชนต่างอพยพออกนอกพื้นที่โดยรอบ 5 กม. เจ้าหน้าที่ และกู้ภัยเร่งควบคุมเพลิงอย่างเร่งด่วน เพราะเกรงจะเกิดระเบิดซ้ำอีกครั้ง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อตั้งจุดระดมทรัพยากร สนับสนุนการระงับเหตุเพลิงไหม้ โดยขณะนี้ได้ระดมรถดับเพลิงโฟมสารเคมีขนาดใหญ่ จากศูนย์ ปภ.จังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมปฏิบัติการ เพื่อดับไฟที่ลุกไหม้นานกว่า 10 ชม. รวมถึง เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ของ ปภ. หรือเรียกกันว่า “นีโม่” ขึ้นทำการบินสำรวจพื้นที่ ประเมินสถานการณ์เตรียมสนับสนุนทิ้งโฟมเพื่อดับไฟ
เจ้าหน้าที่ ยังคงระดมพล บริเวณพื้นที่เพลิงไหม้โรงงานบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ภายใน ซ.กิ่งแก้ว21 ถ.กิ่งแก้ว ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยเจ้าหน้าที่ และกู้ภัยเร่งควบคุมเพลิงอย่างเร่งด่วน เนื่องจากอาจจะเกิดระเบิดซ้ำอีกครั้ง
ในเวลาต่อมา นักบินและกำลังพลของกองทัพบก นำเฮลิคอปเตอร์ KA-32 จำนวน 2 ลำ ของ กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เข้าทิ้งโฟมในพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานบริษัท หมิงตี้ เคมิคอล ซอยกิ่งแก้ว 21 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ สถานการณ์โดยรอบยังมีเพลิงลุกไหม้และมีกลุ่มควันดำหนาแน่น เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าปฏิบัติ เนื่องจากจะต้องทำการบินระดับต่ำ และประเมินเหตุระเบิดซ้ำจากถังสารเคมีที่กระจัดกระจาย
ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก สั่งการให้ศูนย์การบินทหารบก จ.ลพบุรี นำเฮลิคอปเตอร์ KA-32 ของ ปภ. เข้าสนับสนุน โดยใช้ฐานปฏิบัติการบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เติมโฟม และประเมินสถานการณ์ ก่อนเข้าปฏิบัติการดับไฟจนกว่าเหตุการณ์จะยุติ
18.00น. สถานการณ์โดยรอบยังมีเพลิงลุกไหม้และมีกลุ่มควันดำหนาแน่น ในพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานบริษัท หมิงตี้ เคมิคอล ซอย กิ่งแก้ว21 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยเจ้าหน้าที่ และกู้ภัยเร่งควบคุมเพลิงอย่างต่อเนื่อง และต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าปฏิบัติงานช่วยเหลือ