”หมิงตี้” เอฟเฟคท์ถึงหุ้น กลุ่มรับผลบวก-ลบพรึ่บ
เหตุการณ์เพลิงไหม้โรงงานเม็ดพลาสติก “หมิงตี้ เคลมีคอล” ทำเกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างรุนแรง เนื่องจากเป็นการระเบิดก่อให้เกิดเพลิงไหม้ยาวนานกว่า 20 กว่าชั่วโมงถึงจะสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้
จนต้องมีการประกาศอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ในรัศมี 5-10 กิโลเมตร เนื่องจากบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดของเพลิงไหม้ และควันพิษที่กระจายออกมาซึ่งมีผลต่อกระทบต่อร่างกาย
เหตุการณ์ดังกล่าวมีผลบวกและลบต่อกลุ่มหุ้นในตลาดหุ้นทันทีจากการประในความเสียหายที่เกิดขึ้น เริ่มจากธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวคือโรงพยาบาลในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งประกอบไปด้วย โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGH ที่มีโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 2 แห่งในพื้นที่ดังกล่าว คือ จุฬารัตน์ 1 และจุฬารัตน์ 9 ทำให้ต้องขนย้านผู้ป่วยฉุกเฉินและประกาศงดให้บริการวัคซีนโควิด การตรวจหาเชื้อโควิด
รวมไปถึงบริษัท พริ๊นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC ซึ่งมี 1 แห่ง คือโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ต้องการประกาศปิดการรับตรวจเชื้อโควิดแบบ Drive Thru เป็นการชั่วคราว
ผลกระทบดังกล่าว บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย พลัส ระบุผลกระทบต่อ CHG ซึ่งทั้ง 2 แห่งมีสัดส่วนเตียงรวม 165 เตียง คิดเป็น 22% ของสัดส่วนเตียงรวม เบื้องต้นประเมินผลกระทบยังจำกัด ทั้งนี้ ยังต้องติดตามระยะเวลาในการปิดกรณีเลวร้ายหากปิด 1 เดือน กระทบรายได้ราว 2% ต่อเดือน
ส่วนกลุ่มที่ได้รับผลบวกจากเหตุการณ์ดังกล่าวไปกระจุกตัวในหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ตามการคาดการณ์ว่าจะมีประชาชนต้องซ่อมแซ่มบ้านเรือนที่เสียหายจำนวนมาก ซึ่งเบื้องต้นมีจำนวนบ้านพักที่เสียหายไม่ต่ำกว่า 100 หลัง
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาโดดเด่น บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องเซรามิกปูพื้นและบุผนัง ที่ราคาขึ้นมาทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี อยู่ที่ 3.14 บาท (6 ก.ค.) และมาปิดที่ 3.12บาท เพิ่มขึ้น 10.64% ยังมีปัจจัยหนุนจากการร่วมลงทุนโซลาร์ รูฟท็อปกับกลุ่มปตท. จะมีรายได้เข้ามาทันทีไตรมาส 3 ปี 2564
นอกจากนี้มีบริษัท สหโมเสกอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ UMI ราคาทำซิลลิ่ง 27.89 % มาปิดที่ราคาสูงสุด 1.91 บาท ตามมาด้วย หุ้นบริษัท ไดนาสตี้เซรามิก จำกัด (มหาชน) หรือ DCC ราคามาปิดที่ 3.26บาทเพิ่มขึ้น 4.49 % บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ราคาหุ้นปิดที่ 32.75บาท เพิ่มขึ้น 0.77% และบริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP ราคาหุ้นมาปิด0.65 บาท เพิ่มขึ้น 3.17%
รวมไปถึงกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ดับไฟและเพลิงไหม้ก็มีการซื้อขายเพิ่มเช่นกัน โดยคาดว่าจะมีปริมาณความต้องการอุปกรณ์ดับเพลิง และความต้องการออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นมาตรฐานมากขึ้น มีความเป็นไปได้สูงที่หน่วยงานภาครัฐจะมีการตรวจสอบและคุมเข้มระบบความปลอดภัยโดยเฉพาะเรื่องการป้องกันเพลิงไหม้มากขึ้นจากนี้ไป
โดยมีบริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ FTE ดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ดับเพลิงแบบครบวงจร ราคาหุ้นปรับตัวบวกมาปิดที่ 2.18บาทเพิ่มขึ้น 5.83 % และ บริษัท หาญ เอ็นจีเนียริ่ง โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ HARN ประกอบธุรกิจนำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในระบบดับเพลิง ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล ระบบทำความเย็น ระบบการพิมพ์ดิจิทัล ให้บริการพัฒนาระบบ IOT Products and Solutions รวมทั้งให้คำปรึกษาและออกแบบระบบในโครงการต่างๆ และการให้บริการโซลูชั่นด้านวิศวกรรมครบวงจร ราคาปิดที่ 2.72บาทเพิ่มขึ้น 1.49%