ประเดิมล็อตแรกรับ 'ผู้พ้นโทษ-พักโทษ' 1,000 คน ทำงาน บ.ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า

8 ก.ค.2564 ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  แถลงข่าวการสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนรับแรงงานที่อยู่ในการคุมความประพฤติ เข้าทำงานที่ บริษัทเดลต้า อิเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)1,000 คน พร้อมด้วย  นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ นายโฆสิต สุวินิจจิต ประธานอนุกรรมการศึกษาแนวทางการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ และนายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการบริษัทเดลต้า อิเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทเดลต้า เป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนจำเป็นของรถยนต์ไฟฟ้าแห่งหนึ่งของโลก มีบริษัทรถยนต์ดังหลายแห่งเป็นคู่ค้า เช่น เมอร์ซิเดสเบ็นซ์ บีเอ็มดับเบิ้ลยู และเจอเนอรัล มอเตอร์ โดยบริษัทเดลต้า ได้มีการพูดคุยกับกระทรวงยุติธรรม ผ่านทางนายโฆสิตในเรื่องของการส่งแรงงานจากผู้พักโทษและพ้นโทษจากกรมราชทัณฑ์ โดยการใช้แรงงานของผู้พ้นโทษและพักโทษที่ติดกำไล EM ซึ่งคนเหล่านี้พ้นโทษแล้วไม่ใช่ผู้ต้องขัง

ซึ่งในโครงการนี้จะไม่รวมกลุ่มนักโทษ 7 ประเภทร้ายแรงที่อยู่ Watch List โดยเราขอให้บริษัทจัดที่พักให้แรงงานเหล่านี้ รวมทั้งการฝึกอบรมต่างๆ ซึ่งทางบริษัทเดลต้าพร้อมที่จะดำเนินการ แต่ในช่วงนี้เป็นวิกฤตโควิด-19 เราจึงต้องรอให้สถานการณ์ดีขึ้นก่อน โดยบริษัทเดลต้า กำลังขยายพื้นที่อีก 40 ไร่ ต้องการแรงงานจำนวนมากเบื้องต้นจะรับช่วงแรก 1,000 คน และจะทยอยรับเพิ่มเติมอีกหลังการขยายพื้นที่ ตนต้องขอบคุณบริษัทเดลต้า ที่ช่วยทำความฝันของกระทรวงยุติธรรม ในการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้พ้นโทษไม่หวนกลับไปทำความผิด ลดความแออัดในเรือนจำ และทำมาตรฐานให้เทียบเท่ากับสากลต่อไป

โครงการนี้เป็นโครงการนำร่อง ยังมีอีกหลายบริษัทที่ติดต่อเข้ามา ในการจ้างงานจะเป็นการจ้างงานระยะยาว แต่ก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างบริษัทกับความพึงพอใจของแรงงาน โดยค่าแรงจะเป็นไปตามกำหนดค่าแรงขั้นต่ำตามกฎหมาย แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถ หากใครมีความสามารถสูงค่าแรงก็จะมากตามไปด้วย ดังนั้นตนจึงอยากขอให้ผู้ต้องขังทุกคน ฝึกวิชาชีพและเรียนหลักสูตรต่างๆ ที่ทางกรมราชทัณฑ์ได้บรรจุหลักสูตรไว้ โดยเลือกในสิ่งที่เราชอบ ฝึกฝนให้ชำนาญ เพื่อที่พ้นโทษออกมาแล้วจะได้มีงานทำเลี้ยงชีพและมีรายได้เพียงพอเลี้ยงครอบครัวด้วย

ด้านนายโฆสิต กล่าวว่า ยังมีอีกหลายบริษัทที่สนใจเข้าร่วมโครงการ และมีความต้องการผู้พ้นโทษและพักโทษที่มีทักษะด้านต่างๆ โดยบริษัทจะคัดเลือกผู้พ้นโทษและพักโทษเบื้องต้นตามความต้องการของบริษัท และให้บริษัทคัดเลือกอีกที จากนั้นจะให้กรมคุมประพฤติควบคุมดูแลจำกัดพื้นที่ให้อยู่ในบริเวณควบคุมสำหรับผู้พักโทษที่ติดกำไล EM

ส่วนนายอายุตม์ ยืนยันว่า กรมราชทัณฑ์ได้มีการเตรียมพร้อมสำหรับโครงการนี้ไว้แล้ว โดยมีการฝึกวิชาชีพต่างๆที่ตลาดแรงงานต้องการ รวมทั้งการอบรมเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ นอกจากนี้จะมีการฝึกทักษะของอาชีพต่างๆที่บริษัทต้องการในเบื้องต้นด้วย โดยจะมีการฝึกอบรม 1 เดือนเพื่อให้พร้อมก่อนที่จะออกไปทำงาน

ขณะที่ นายวิตถวัลย์ ระบุว่า ในส่วนนี้กรมคุมประพฤติได้เตรียมความพร้อมเรียบร้อย โดยจะมีศูนย์ EM เพื่อติดตามผู้พักโทษที่ไปทำงาน รวมถึงมีอาสาสมัครคุมประพฤติคอยช่วยดูแลอีกทาง และทางกรมคุมประพฤติจะร่วมกับกรมราชทัณฑ์ในการคัดกรองผู้พักโทษที่สมัครเข้าร่วมโครงการในเบื้องต้น โดยจะดูประวัติและความประพฤติด้วย จากนั้นจะประสานกับฝ่ายทรัพยากรบริษัทในการรับเข้าทำงาน

สำหรับ นายอนุสรณ์ ได้กล่าวขอบคุณกระทรวงยุติธรรมที่ติดต่อมาในช่วงวิกฤตที่เราขาดแคลนแรงงาน  โดยเราจะเริ่มรับกลุ่มแรกที่ 1,000 คน และยังต้องการแรงงานอีกจำนวนมาก เพราะเราขยายพื้นที่โรงงาน และยังมีอีกหลายผลิตภัณฑ์ที่เราจะทำ ดังนั้นบริษัทเดลต้าจะยังรับแรงงานได้อีกเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะรับได้มากถึง 10,000 คน ซึ่งการที่เรารับผู้พ้นโทษในครั้งนี้ เราอยากให้โอกาส และเราได้เห็นว่าในเรือนจำยังมีแรงงานฝีมือดีอีกมาก และได้รับการสร้างมั่นใจจากกระทรวงยุติธรรม ดังนั้นเราจึงตอบตกลงเข้าร่วมโครงการนี้