'คนละครึ่งเฟส 3' เตรียมเฮ! คลังจ่อไฟเขียว 'ฟู้ดเดลิเวอรี่' เข้าร่วมได้

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยถึงกรณี ฟู้ดเดลิเวอรี่ ต้องการเข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่งเฟส 3" ของรัฐบาล ล่าสุดว่า ขณะนี้ได้หารือกับผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ (DELIVERY) อย่างไม่เป็นทางการแล้ว 2 ราย จากผู้ให้บริการทั้งหมด 4 ราย โดยผู้ให้บริการยินดีที่จะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งอย่างไม่มีปัญหา ยกเว้นผู้ให้บริการหนึ่งรายที่กระทำผิดกฎหมายอยู่ในขณะนี้

“สศค.จะไม่ตัดสิทธิผู้ให้บริการรายใดออกไป แต่ต้องการทำให้ทุกอย่างถูกต้องตามเงื่อนไขของโครงการคนละครึ่ง ซึ่งเงื่อนไขการชำระเงินขณะนี้จะต้องเป็นการชำระเงินระหว่างกันโดยตรงไม่ผ่านตัวกลาง (Face to Face) เท่านั้น”

นางสาวกุลยา กล่าวว่า ภายในเดือนก.ค.นี้ จะเชิญผู้ประกอบการเดลิเวอรี่เข้ามาหารือผ่านระบบออนไลน์ เพื่อสรุปแนวทางการเข้าร่วมอย่างเป็นทางการ

โดยในระหว่างนี้ สศค.ได้หารือกับธนาคารกรุงไทยในฐานะผู้พัฒนาแอพพลิเคชันชำระเงินของโครงการรัฐ ในประเด็นการชำระเงินจากภาครัฐไปสู่ผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ และจากฟู้ดเดลิเวอรี่ไปยังผู้ค้า เป็นต้น ซึ่งประเด็นต่างๆ เหล่านี้จะต้องคำนึงถึงความโปร่งใส โดยเรื่องนี้จะต้องชัดเจนก่อนเดือนต.ค.2564 ซึ่งจะมีการจ่ายเงินคนละครึ่ง งวดที่ 2 อีกจำนวน 1,500 บาท

ส่วนกรณีการลดค่าธรรมเนียม หรือ Gross Profit (GP) นั้น สศค.ไม่ได้ติดใจหากผู้ให้บริการจะไม่ลดราคาลง เพราะอยากเห็นการมีส่วนร่วมของฟู้ดเดลิเวอรรี่ต่อประชาชนในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 มากกว่า โดยผู้ประกอบการที่หารือล่าสุด ระบุว่า มีการจัดโปรโมชันให้กับร้านค้า คนส่งสินค้า (ไรเดอร์) และผู้สั่งซื้ออาหารอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว เช่น โรบินฮู้ด ไม่เก็บค่าขนส่งลูกค้า เป็นต้น โดยมองว่าเป็นเรื่องดีที่ทุกฝ่ายช่วยเหลือสังคมในช่วงที่ล็อกดาวน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ที่สศค.มองว่า​ อาจจะมีปัญหาทำผิดกฎหมายของโครงการคนละครึ่ง คือ "ไลน์แมน" เพียงเจ้าเดียว เนื่องจากใช้ช่องโหว่ของการชำระเงินในโครงการคนละครึ่ง โดยสศค.ได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการแจ้งเตือนถึงการกระทำผิดถึงบริษัท ไลน์แมนแล้ว จำนวน 2 ครั้ง

ล่าสุดวันที่ 14 ก.ค.2564 ได้ส่งจดหมายเตือนเป็นฉบับที่ 2 โดยได้รับคำตอบว่า ไม่ว่าง เหมือนกับครั้งที่หนึ่ง

ดังนั้นในสัปดาห์หน้าสศค.จะทำจดหมายถึงบริษัท ไลน์แมนเป็นครั้งที่สาม หากไม่มีคำตอบที่ชัดเจน สศค.จะดำเนินการตามกฎหมาย