“จุรินทร์”ลงพื้นที่อีสานใต้สร้างเครือข่ายการค้าภูมิภาค
“จุรินทร์”ลงพื้นที่อีสานใต้ เดินหน้าขจัดอุปสรรคส่งออก ด้านกรมส่งเสริมการค้าต่างประเทศ ลุยกิจกรรมการส่งเสริมการส่งออกทั้งเจรจาออนไลน์ งานแสดงสินค้าออนไลน์ สั่งทูตพาณิชย์จับมือพาณิชย์จังหวัดร่วมมือจัดแม็ทชิ่งออนไลน์ดันยอดส่งออก
เมื่อเร็วๆนี้จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่อีสานใต้ ประกอบด้วย จ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และศรีษะเกษ เพื่อติดตามความคืบหน้านโยบายและโครงการสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งการประกันรายได้ปี 2 โครงการจับคู่กู้เงิน เปิดตัวโมบายพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน นำสินค้าราคาถูกทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง ขายลดค่าครองชีพสูงสุด64% การค้าชายแดน รวมทั้งมอบโฉนดคืนให้กับเกษตรกร ที่กู้เงินจากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
จากภาระกิจครั้งนี้มีมุมมองต่างหลังได้เข้าถึีงพื้นที่และได้เข้าถึงปัญหาที่อาจมองภาพได้ไม่ชัดในมุมมองจากส่วนกลางเพียงอย่างเดียว ซึ่งโอกาสนี้ จุรินทร์ เล่าให้ฟังถึงผลการทำงานด้านต่างๆว่า สำหรับการเปิดตัวโครงการ “จับคู่กู้เงิน”ที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นครั้งแรกในภูมิภาคนี้ เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีส่งออกสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ ดอกเบี้ยพิเศษ เพราะในพื้นที่แม้จะมี SMEs ส่งออกประมาณ 30,000 ราย คิดเป็น 1% ของ SMEs ทั้งหมดทั่วประเทศที่ประมาณ 3,000,000 ราย ก็ตาม แต่ SMEs จะเป็นทัพหน้าในการทำรายได้ให้กับประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้มี เอสเอ็มอีส่งออกสินค้าในประเทศกลุ่มซีแอลเอ็มวี(กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม) 2 รายที่เป็นผลผลิตจากการอบรมหลักสูตรผู้ส่งออกของสถาบันผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA)ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ให้เป็นผู้ส่งออกภายได้เข้ามายื่นกู้ด้วย
ในโอกาสนี้ ยังได้เข้าไปรับฟังปัญหาด่านชายแดน ณ จุดผ่านแดนถาวร บ้านปากแซง อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี ที่ถูกปิดเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยด่านดังกล่าวเป็นด่านค้าชายแดนระหว่างไทยและสปป.ลาว ซึ่งในแต่ละปีไทยส่งสินค้าไปผ่านชายแดนไทยไปยังสปป.ลาวมูลค่าหลายพันล้านบาท โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค หากแก้ปัญหานี้ก็จะทำให้ตัวเลขการค้าชายแดนกลับมาก็จะไปเพิ่มยอดการส่งออกของไทย
นอกจาก การแก้ปัญหาการค้าชายแดนแล้วสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการช่วยผลักดันตัวเลขการส่งออกของไทยไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันนั่่นก็คือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าทั้งการเจรจาการค้า การจัดงานแสดงสินค้า โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญในการขับเคลื่อนก็ได้มีการปรับเปลี่ยนแนวทางการส่งเสริมการค้าจากออฟไลน์เป็นออนไลน์
นันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ได้เน้นย้ำนโยบายว่า จะทำอย่างไรให้เกิดการเจรจาธุรกิจได้ เพื่อเสริมทัพการส่งออกของไทย โดยที่ผ่านมากรมฯได้มีการจัดเจรจาการค้าออนไลน์ไปแล้ว 3-4 ครั้งในสปป.ลาว สร้างรายได้เข้าประเทศ 300-400 ล้านบาทและในวันที่ 21-25 ก.ค. 2564 ได้มีการจัดงานแสดงสินค้า Mini Thailand Week 2021 ณ แขวงคำม่วน
จากนั้นในเดือนส.ค.และก.ย.นี้จะมีกิจกรรมส่งเสริมการตลาดใน สปป.ลาวเพื่อกระตุ้นการส่งออก ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าฟิวเจอร์ฟู๊ด เช่น อาหารให้พลังงาน และเครื่องจักรทางการเกษตร ซึ่งจะเป็นสินค้าหลักในการเจรจาออนไลน์ ทั้งโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการสินค้าไทย ร่วมกับซุปเปอร์มาร์เก็ตริมปิงฝั่ง สปป.ลาว (จัด Instore Promotion) ระหว่างวันที่ 27- 29 ส.ค. 2564 และงาน Thai Seafood Festival ที่เวียงจันทน์เซ็นเตอร์ ระหว่างวันที่ 3-5 ก.ย.2564 เพื่อส่งเสริมการบริโภคอาหารทะเลให้ผู้บริโภค สปป.ลาวได้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยซีฟู้ดจากไทย ทั้งนี้คาดว่าจะทำให้เกิดมูลค่าการส่งออกอาหารทะเลเพิ่มแน่นอน ทั้งนี้กรมฯก็มีแผนกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีด้วย
กวิน วิริยะพาณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเวียงจันทน์ ชี้ให้เห็นว่า ภาพลักษณ์สินค้าไทยได้รับความนิยมมากในสปป.ลาว จากการชมสื่อโฆษณาจากประเทศไทยประกอบกับสามารถหาซื้อได้ง่ายในซุปเปอร์มาเก็ตใน สปป.ลาว ซึ่งผู้ผลิตไทย ได้มีการทำ Marketing กับ Promotion ในตลาดควบคู่กันไปด้วย ด้านราคาก็จำหน่ายราคาเท่ากับจำหน่ายในประเทศไทย