“มนัญญา “ ปรี๊ด สั่งเช็คสต็อก ปุ๋ยยูเรีย หลัง7 ผู้ประกอบไม่ยอมหั่นกำไร
มนัญญา สั่งกรมวิชาการเกษตรเช็คสต็อกปุ๋ยยูเรีย หลัง ถก 7 ผู้ประกอบการไม่ยอมลดราคาอ้างกลไกการตลาดทำ ราคาพุ่งพรวด15,000บาทต่อตัน
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการปุ๋ย ว่า ว่า ปัจจุบันราคาปุ๋ยเคมีปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนปัจจัยการผลิตของเกษตรกรสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีฯ ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากราคาปุ๋ยที่เพิ่มขึ้น
ซึ่งในขณะนี้ปริมาณการใช้ปุ๋ยมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา และราคาปุ๋ยในตลาดปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องหาแนวทางเพื่อให้เกษตรกรสามารถซื้อปุ๋ยในราคาเป็นธรรมในช่วงวิกฤตินี้ โดยที่ประชุม ได้ขอร่วมมือกับบริษัทผู้นำเข้าปุ๋ย ปรับลดราคาปุ๋ยยูเรียลง เนื่องจากปัจจุบันราคาหน้าโรงงานขยับขึ้นไปถึง 1.5 หมื่นบาทต่อตัน เทียบกับปีที่ผ่านมาช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่ราคา1.1 หมื่นบาทต่อตัน
อย่างไรก็ตามภาคเอกชนชี้แจงว่าไม่สามารถปรับลดได้เพราะเป็นกลไกตลาด ดังนั้น จึงได้สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรตรวจสอบว่าสต็อกปุ๋ยที่ขออนุญาตนำเข้าครึ่งปี64 จำนวน1.23 ล้านตัน โดยด่วนให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ หากพบว่ายังเหลือค้างในสต็อกก็น่าจะปรับราคาลงได้เนื่องจากราคานำเข้าก่อนหน้านี้ยังไม่พุ่งแรง
เบื้องต้นจากการตรวจสอบการนำเข้าปุ๋ย ม.ค.-มิ.ย. 2564 พบว่า มีการนำเข้า 1.23ล้านตัน เพิ่มจากปี 63 ประมาณ 15.90% ที่นำเข้าประมาณ 1.06 ล้านตัน ราคา ณ หน้าโรงงานขายเฉลี่ยต่อตัน 11,354 บาท เอกชนชี้แจงว่า เขาบวกกำไรประมาณ18-21% แต่ราคาที่ขายท้องตลาดปรากฏว่าพุ่งถึง 1.5 หมื่นตัน เมื่อเทียบปี 63 ช่วงเวลาเดียวกันราคาหน้าโรงงานเพียง 8,138บาท หรือปุ๋ยปี64 แพงกว่า63 ถึง39.51%
“ในการหารือได้ขอให้ช่วยปรับกำไรลงมา เพื่อให้ราคาปุ๋ยลงมาใกล้เคียงปี63 โดยเฉพาะในล๊อตที่มีการนำเข้าในครึ่งปี64 แต่ภาคเอกชนชี้แจงไม่สามารถลดได้เพราะเขาต้องซื้อตามกลไกตลาดที่ขณะนี้ความต้องการตลาดเพิ่มขึ้นมาก ขณะเดียวกันปุ๋ยทีนำเข้าครึ่งปีแรกก็หมดแล้วจึงเป็นเหตุให้ไม่สามารถลดได้"
สำหรับ ในปี2563 มีการนำเข้าปุ๋ยยูเรียจำนวน1.06 ล้านตัน มูลค่านำเข้า 8,661ล้านบาท ราคาเฉลี่ย8,138บาทต่อตัน ปี 64 นำเข้า 1.234 ล้านตัน มูลค่า14,015ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อตัน11,354 บาทต่อตัน ส่วนเอกชนที่หารือ 7 บริษัทประกอบด้วย 1.บริษัทเจี๋ยไต๋ จำกัด 2.บ.พี ซี เอ็ม(ประเทศไทย) จำกัด 3.ปุ๋ยไวกิ้ง จำกัด 4.บ.ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด 5.เทอราโก เฟอร์ติไลเซอร์ จำกัด 6. ไอ ซี พี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 7.บ.ปุ๋ยมหาวงศ์ จำกัด