ตร.สั่งตั้งด่านคุมเข้าเข้า-ออก 13 พื้นที่สีแดงเข้ม ตรวจรถทุกคันตลอด 24 ชม.
กำชับตำรวจในพื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวด 13 จังหวัด ตามประกาศ พรก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 28 ตั้งด่านตรวจรถทุกคันตลอด 24 ชม. ครอบคลุมทุกเส้นทางข้ามจังหวัดเพื่อสกัดกั้นการเดินทางออกนอกพื้นที่
เมื่อวันที่ 19 ก.ค.64 พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 28) ลงวันที่ 17 ก.ค.64 เพิ่มความเข้มข้นของมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 โดยมีการกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมและการตรวจคัดกรองการเดินทาง เฉพาะเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวด 13 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี และฉะเชิงเทรา
เพื่อประโยชน์ในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ให้พนักงานเจ้าหน้าที่โดยการสนับสนุนจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ ในเส้นทางคมนาคม เข้าออกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เน้นการปฏิบัติเพื่อการคัดกรอง ชะลอหรือสกัดกั้น การเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อเดินทางไปยังพื้นที่อื่น ให้เป็นตามแนวทางที่ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) กำหนด เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 14 วัน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. 64
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปม.ตร.) ขับเคลื่อนนโยบายของทางรัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) ตามข้อกำหนดออกตามความมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 28) ลงวันที่ 17 ก.ค. 64 มีวิทยุสั่งการและกำชับการปฏิบัติผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยังหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องทุกพื้นที่โดยเฉพาะเน้นย้ำไปยังพื้นที่ควบคุมสุดและเข้มงวด
โดยมีข้อสั่งการคือ ให้ตรวจรถทุกคันตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมทุกเส้นทางข้ามจังหวัดเพื่อสกัดกั้นการเดินทางออกนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ในการกำหนดจุดตรวจ จุดสกัด ให้ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดและบูรณาการกำลังพลปฏิบัติร่วมกับฝ่ายปกครอง ทหาร และสาธารณสุข กำชับให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ที่มีรอยต่อระหว่างพื้นที่ ที่ ศบค. กำหนด ควบคุมการปฏิบัติไม่ให้มีการตั้งด่านตรวจข้ามจังหวัดซ้ำซ้อนกัน (ประชาชน ต้องไม่ถูกตรวจซ้ำ 2 ด่านตรวจข้ามจังหวัด) สำหรับการตรวจเอกสาร กรณีประชาชนได้ลงทะเบียนในเว็บไซต์ที่ ศบค.กำหนด เพื่อขออนุญาตเดินทางโดยจะแสดง QR Code ต่อเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ ให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ไม่ต้องรอคิว หากพบประชาชนไม่เข้าข้อยกเว้นตามข้อกำหนดฯ ให้เจ้าหน้าที่ซักถามและว่ากล่าวตักเตือนโดยให้ ลงข้อมูลในแอปพลิเคชัน Covid Control ด้วยทุกครั้ง
โดยให้เริ่มตั้งจุดตรวจฯ ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. 64 เวลา 00.01 น. เป็นต้นไป รวมทั้งสั่งการให้จัดชุดสายตรวจ ชุดเคลื่อนที่เร็วออกตรวจตรา ห้ามมิให้บุคคลออกนอกเคหสถานในห้วงเวลา 21.00-04.00 น. โดยเน้นประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำประชาชนทราบถึงข้อห้ามและมาตรการตามข้อกำหนดต่างๆ และกวดขันสถานประกอบการต่างๆ ให้ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. รวมไปถึงกวดขันจับกุมการรวมกลุ่มมั่วสุมมากกว่า 5 คนขึ้นไป ทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค พร้อมแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยกำชับและกำกับดูแลกำลังพลให้ระวังป้องกันตนเองและปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดในระหว่างปฏิบัติงาน