ลุ้นเปิด'โอลิมปิก'ดันหุ้น'แพลนบี’ขยับ
วันนี้สปอร์ตไลท์ทั้งโลกคงส่องไปที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพราะในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ “โอลิมปิค โตเกียว 2020” กำลังจะเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19
จึงทำให้การแข่งขันครั้งนี้แตกต่างไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะจะจัดแบบไร้ผู้ชม ไม่อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมการแข่งขันในสนามได้ เพื่อป้องกันโรคระบาด
ต้องยอมรับว่าการจัดโอลิมปิกครั้งนี้ เป็นภารกิจที่ท้าทายจริงๆ สำหรับคณะผู้จัดงานและญี่ปุ่นในฐานะประเทศเจ้าภาพ เพราะไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดโรคระบาดขึ้น จนต้องเลื่อนจัดการแข่งขันมาแล้ว 1 ปี จากกำหนดการเดิมในวันที่ 24 ก.ค.-9 ส.ค. 2563 ด้วยความหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
แต่เมื่อเวลาผ่านไปพบว่ายังมีการระบาดรอบใหม่เกิดขึ้นเป็นระยะ แถมยังมีกระแสต่อต้านมากมาย โดยเฉพาะจากคนในประเทศ เพราะสถานการณ์ในญี่ปุ่นยังไม่ค่อยสู้ดี ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังสูง จนต้องมีการประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียวเป็นครั้งที่ 4 (12 ก.ค.-22 ส.ค. 2564) ก่อนที่จะจัดงานเพียงไม่กี่วัน
แม้ว่าจะเจออุปสรรคมากมาย แต่วันนี้คบเพลิงโอลิมปิกจะถูกจุดขึ้นแล้ว เป็นเสมือนแสงสว่างที่มาพร้อมกับความหวังว่าเราจะต้องเอาชนะโรคระบาดนี้ไปให้ได้
สำหรับในประเทศไทยแม้ว่ากระแสกีฬาโอลิมปิกปีนี้ดูจะเงียบๆ ไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่ แต่เชื่อว่ายังมีแฟนๆ คอกีฬาอีกมากที่เฝ้ารอชมการแข่งขันจากสุดยอดนักกีฬาจากทั่วโลก
โดยการบริหารสิทธิประโยชน์ในการถ่ายทอดสดและการตลาดสำหรับกีฬาโอลิมปิคในประเทศไทยครั้งนี้ เป็นการร่วมมือกันระหว่าง บริษัท แพลนบี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB บริษัทสื่อโฆษณานอกบ้านยักษ์ใหญ่ และ บริษัท เดทสึ อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งคว้าสิทธิมาได้ถึง 4 รายการใหญ่ ได้แก่ โอลิมปิค โตเกียว 2020, โอลิมปิคฤดูหนาว ปักกิ่ง 2022, โอลิมปิคเยาวชน ดักการ์ 2022 และโอลิมปิคเยาวชนฤดูหนาว โลซาน 2020 ครอบคลุมสิทธิในการถ่ายทอดสด, สิทธิในการบริหารผู้สนับสนุน (Sponsorship) และสิทธิในการบริหารคอนเทนต์ แต่เพียงผู้เดียวสำหรับประเทศไทย
หลัง PLANB ประกาศข่าวดีคว้าสิทธิโอลิมปิกมาได้อย่างเป็นทางการตั้งแต่ช่วงกลางปี 2562 ช่วยเติมเสน่ห์ดันราคาหุ้นทันที เพราะจะเป็นอีกช่องทางในการสร้างรายได้ก้อนโตเข้ากระเป๋าไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท จากพันธมิตรมากมายที่พร้อมจะทุ่มเม็ดเงินให้กับบิ๊กอีเวนท์นี้
ส่งผลให้ราคาหุ้น PLANB พุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9.70 บาท เมื่อต้นเดือน พ.ย. 2562 แต่หลังจากนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีนเมื่อปลายปี 2562 ก่อนที่จะระบาดหนักไปทั่วโลก จนหลายประเทศต้องล็อกดาวน์ ห้ามเดินทางเข้าออก
ขณะเดียวกันมีความวิตกกังวลตามมาทันทีว่า โตเกียวโอลิมปิกจะสามารถจัดการแข่งขันได้หรือไม่? เพราะดูแล้วยังยากที่จะควบคุมโรคระบาด โดยมีข้อเสนอออกมามากมาย ทั้งให้เดินหน้าต่อ หรือ เลื่อนการแข่งขันออกไปก่อน ไปจนถึงยกเลิกการแข่งขันไปเลย
กลายเป็นประเด็นกดดันหุ้น PLANB เพราะไม่รู้ว่าโอลิมปิคจะได้เดินหน้าต่อหรือไม่ จะเห็นว่าราคาหุ้นตั้งแต่เปิดปี 2563 ปรับตัวลงต่อเนื่อง และมาทำจุดจ่ำสุดในรอบ 5 ปี เมื่อช่วงปลายเดือนมี.ค. 2563 ที่ 2.48 บาท หลังคณะผู้จัดงานโอลิมปิคตัดสินใจเลื่อนการจัดงานออกไปก่อน 1 ปี
แม้จะเจออุปสรรคมากมาย แต่ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง แฟนๆ ชาวไทยรอชมการถ่ายทอดสดได้เลย ทั้งฟรีทีวี 6 ช่อง ได้แก่ ThaiPBS, NBT, PPTV, JKN18, True4U, GMMTV 25 รวมทั้งเคเบิลทีวีช่อง T-Sports และยังสามารถรับชมการถ่ายทอดสดแบบครบทุกกีฬา ทุกคู่ และย้อนหลังผ่านทาง AIS PLAY ได้อีกด้วย
สำหรับ PLANB การเลื่อนจัดงานมา 1 ปี ไม่ได้หมายความว่ารายได้ส่วนนี้จะหายไป เพียงแค่เลื่อนรับรู้รายได้ออกไปเท่านั้น โดยบล.เคทีบีเอสที ระบุว่า บริษัทจะรับรู้รายได้จากโตเกียวโอลิมปิกในไตรมาส 2 ปี 2564 จำนวน 150 ล้านบาท และในไตรมาส 3 อีก 200 ล้านบาท จากรายได้ของอีเวนท์นี้ทั้งหมด 536 ล้านบาท
เชื่อว่าธีมโอลิมปิกน่าจะช่วยหนุนหุ้น PLANB ให้กลับมามีชีวิตชีวาได้บ้างในระยะสั้นนี้ แต่ในระยะยาวคงต้องขึ้นอยู่กับว่าเม็ดเงินโฆษณาจะฟื้นเมื่อไหร่ ซึ่งแน่นอนว่าย่อมขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19