นครบาล สั่งฟันม็อบ 'เดินทะลุฟ้า - ฮาเล่ย์ฯ' ฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ. 4 ฉบับ
นครบาล ชี้ ม็อบ 'เดินทะลุฟ้า - ฮาเล่ย์ฯ' ชุมนุมที่ อนุสาวรีย์ 25 ก.ค. ทำความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.อีก 4 ฉบับ
26 ก.ค. 2564 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.)ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึง การจัดกิจกรรมชุมนุมของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมที่สำคัญ โดยกลุ่มแรก มวลชนหมู่บ้านทะลุฟ้า มี นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” นัดหมายรวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสิ้นสุดกิจกรรมที่บริเวณแยกพาณิชยการ หน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.00 น. ก่อนจะประกาศยุติการชุมนุมเมื่อเวลา 17.40 น. ในระหว่างนั้น มีการปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงบนรถบรรทุก เดินขบวนกีดขวางการจราจรโดยไม่มีการรักษาระยะห่าง พ่นสีสเปรย์ และจุดไฟเผาสิ่งของบนถนนสาธารณะ
ส่วนกลุ่มฮาเลย์ Sportster.inc นัดหมายรวมตัวกัน ที่บริเวณอนุสาวรีย์ ชัยสมรภูมิ เมื่อเวลา 13.00 น. แล้วร่วมขบวนกับกลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า เดินทางไปหน้าทำเนียบรัฐบาล และได้ยุติกิจกรรมในเวลา 17.40 น. ในระหว่างนั้นมีการขับขี่รถไปตามท้องถนนจานวนหลายคันในลักษณะกีดขวางการจราจร มีการบีบแตร และเร่งเครื่องยนต์เสียงดัง
โดยการกระทำของกลุ่มดังกล่าว จะเข้าข่ายเป็นความผิดในข้อหา จัดกิจกรรมที่มี ความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน อันเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 28 และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อฯ, ตั้งวาง หรือกองวัตถุใดๆ บนพื้นถนน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ, กีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ, ใช้เครื่องขยายเสียง โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการใช้เครื่องขยายเสียงฯ และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้ สน.พญาไท และสน.นางเลิ้ง ซึ่งเป็นท้องที่ ในการจัดกิจกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมในครั้งนี้ ทำการรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดเพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคลว่ามีผู้ใดที่ร่วมกระทำความผิดข้างต้นบ้าง หากทราบตัวบุคคลดังกล่าวแล้ว จะดำเนินการออกหมายเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาตามที่ได้กระทำผิดต่อไป