UNHCR เร่งบรรเทาเหตุ'น้ำท่วม-ดินถล่ม'ค่ายผู้ลี้ภัยโรฮิงญา

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) รายงานว่า เสียใจอย่างยิ่งต่อการเสียชีวิตของผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาทั้ง 6 คน จากฝนมรสุมที่ตกหนักมาเป็นเวลายาวนาน 3 วัน และลมกระโชกรุนแรงเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่พักพิงผู้ลี้ภัยในเมืองคอกซ์บาซาร์  บังกลาเทศ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม เมื่อวันอังคาร (27 ก.ค.)

 จากรายงานเบื้องต้น ผู้ลี้ภัยมากกว่า 12,000 คนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ และที่พักพิงประมาณ 2,500 หลังได้รับความเสียหายและถูกทำลาย   

เพียง 24 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ ปริมาณน้ำฝนกว่า 300 มิลลิเมตรได้ไหลเข้าสู่ค่ายต่างๆ ที่เป็นที่พักพิงของผู้ลี้ภัยชาวโรงฮิงญามากกว่า 800,000 คน ซึ่งเทียบได้เกือบครึ่งของปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยของเดือนกรกฎาคมทั้งเดือนใน 1 วัน คาดว่าฝนจะตกหนักไปอีก 2-3 วัน และฤดูมรสุมจะยาวนานไปอีก 3 เดือน สถานการณ์เป็นที่น่ากังวลมากยิ่งขึ้นเมื่อเกิดขึ้นพร้อมกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะที่มีการจำกัดพื้นที่อย่างเข้มงวดภายในประเทศเพื่อรับมือกับการติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วประเทศ

  ทีมช่วยเหลือฉุกเฉินในเครือข่ายของ UNHCR  เร่งเข้าช่วยเหลือครอบครัวที่ได้รับผลกระทบและผู้ที่ถูกบังคับให้โยกย้ายออกจากพื้นที่ชั่วคราวในทันที ทางทีมกำลังประเมินความเสียหายของที่พักพิงและเริ่มซ่อมแซมที่พักพิงและปรับปรุงพื้นที่อย่างฉับพลัน โดยให้ความสำคัญกับการเข้าถึงบริการที่จำเป็นต่างๆ แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นอันดับแรก  ก่อนหน้านี้ผู้ลี้ภัยมากกว่า 5,000 คนได้โยกย้ายไปอาศัยในที่พักพิงของญาติหรือในพื้นที่ส่วนกลางเป็นการชั่วคราวแล้ว

จากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ดินถล่มและน้ำท่วมขังล่าสุด ได้เพิ่มความยากแค้นและความต้องการด้านมนุษยธรรมของผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาในประเทศบังกลาเทศขึ้นอีกอย่างมหาศาล UNHCR ย้ำว่า จนถึงวันนี้แผนการรับมือร่วมประจำ พ.ศ. 2564 ต่อวิกฤติด้านมนุษยธรรมของชาวโรฮิงญาได้รับงบประมาณเพียง 9 พันล้านบาท  หรือประมาณร้อยละ 30 ของงบประมาณที่ต้องการทั้งหมด 3.1 หมื่นล้านบาท