ทอ.แจง ดราม่าไม่คุ้มค่าใช้เครื่องบินขนมังคุดใต้ เผย ทำควบคู่ภารกิจฝึก ไม่ให้บินเสียเที่ยว
'โฆษกทัพฟ้า' แจง ใช้ เครื่องบิน SAAB 340 ช่วยขนมังคุดใต้ ไม่คุ้มค่า ยันไม่ใช่เพิ่มเที่ยวบิน แต่นำไปพร้อมกับการฝึกบินตามตาราง ย้ำเป็นการได้ประโยชน์ ไม่ปล่อยให้บินไปเสียเที่ยว
10 ส.ค.2564 จากกรณี กองทัพอากาศ จัดเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 17 (SAAB340) สนับสนุนการแลกเปลี่ยนผลผลิตทางการเกษตร ระหว่างจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรในการระบายสินค้าไปยังพื้นที่ปลาย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ราคาผลผลิตผลไม้ตกต่ำต่อเนื่อง รวมถึงสาเหตุจากการตกค้างของตู้ขนส่งสินค้าจากประเทศจีน การขาดแคลนแรงงานในการเก็บเกี่ยวและจัดการผลผลิต อีกทั้งการขนส่งผลผลิตออกนอกพื้นที่กระทำได้ค่อนข้างยากลำบาก เนื่องจากการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิดของแต่ละจังหวัด
พลอากาศเอก แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ จึงสั่งการให้ กองบิน 7 สนับสนุนเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 17 (SAAB340) ในการขนส่งผลผลิตทางการเกษตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรในการระบายสินค้าไปยังพื้นที่ปลายทาง โดยให้กองบิน 7 และกองบิน 41 ประสานการแลกเปลี่ยนผลผลิตทางการเกษตรระหว่างจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน ระหว่างวันที่ 9 - 10 สิงหาคม 2564 สำหรับการแลกเปลี่ยนสินค้าในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพอากาศ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน
จากนั้นจึงมีการวิพากษ์วิจารณ์ การนำเครื่องบิน SAAB 340 มาใช้ในภารกิจขนมังคุด สุราษฎร์ธานี ไปแลกกับลำไย ที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน นั้น ไม่คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายในการบิน ซึ่งเป็นการใช้ทรัพย์สินผิดประเภท
ล่าสุด พลอากาศโท ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ ชี้แจงว่า ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะ กองทัพอากาศ มีแผนการฝึกของนักบินในแต่ละพื้นที่อยู่แล้ว เพื่อพัฒนากำลังพล ดังนั้น การช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงนี้ ควบคู่ไปกับการฝึกบิน จึงถือเป็นการได้ประโยชน์ ไม่ปล่อยให้บินไปเสียเปล่า ไม่ใช่เป็นการเพิ่มเที่ยวบินเพิ่มเติม