'ขายของออนไลน์' ต้องรู้! ทริค 'ถ่ายภาพสินค้า' ด้วยมือถือ ให้เหมือนมืออาชีพ

 'ขายของออนไลน์' ต้องรู้! ทริค 'ถ่ายภาพสินค้า' ด้วยมือถือ ให้เหมือนมืออาชีพ

เปิดทริค "ถ่ายภาพสินค้า" ด้วยมือถือ สำหรับคน "ขายของออนไลน์" ถ่ายยังไงให้เหมือนมืออาชีพ น่าซื้อ ยอดขายกระฉูด

"ภาพถ่ายสินค้า" เป็นสิ่งแรกที่สามารถทำให้ลูกค้าที่กำลัง "ช้อปออนไลน์" สะดุดตา หยุดไถฟีด แล้วยอมเสียเวลาเข้ามาดูสินค้าใน  "ร้านค้าออนไลน์" ของเรา แน่นอนว่าถ้าเราสามารถถ่ายภาพได้สวยงาม ดึงดูด และตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า ณ เวลานั้นๆ ได้ โอกาสในการปิดการขายจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว 

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ชวน พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ มารู้จักทริคเล็กๆ ในการถ่ายภาพสินค้าด้วยมือถือให้ผลงานออกมาแบบมืออาชีพ ไม่ต้องจ้างให้เสียต้นทุนจ้างช่างภาพเพิ่ม เพียงใช้ 4 ทริคสุดเบสิก ดังนี้

 1. วางตำแหน่งภาพให้เป็น 

การถ่ายภาพสินค้าให้สวย สามารถเริ่มต้นได้ด้วยหลักการถ่ายภาพเบื้องต้น ที่ทุกคนสามารถฝึกได้ แม้จะไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ เพียงเข้าใจหลักการในการจัดตำแหน่งภาพ เช่น หลักการถ่ายภาพที่เรียกว่า “Rule of thirds” หรือ “กฎสามส่วน”

162936241694

การถ่ายภาพที่ใช่หลักกฎสามส่วน มีหลักการง่ายๆ คือลากเส้นแบ่งภาพออกเป็นสามส่วน ทั้งแนวตั้งและแนวนอน จะเกิดจุดตัดกันในภาพ 4 จุด ซึ่งจุดตัดของเส้นทั้ง 4 นี้ เป็นตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการจัดวางวัตถุที่ต้องการเน้นให้เป็นจุดเด่น เทคนิคนี้จะช่วยให้ภาพถ่ายของเรา มีตำแหน่งที่ดูลงตัว และดูมีรสนิยมมากขึ้น ไม่ว่าจะคุณจะขายอะไรก็ตาม

 2. รู้จักเลือกใช้แสง 

แสงสว่าง และการจัดแสง เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการถ่ายภาพสินค้าให้ออกมาดูดีได้ ซึ่งผู้ถ่ายภาพสามารถใช้ได้ทั้งแสงธรรมชาติ อย่างแสงแดดสาดเข้ามาบนสินค้า ให้บรรยากาศที่สดใส แต่อาจต้องเลือกใช้แสงในแต่ละช่วงเวลา ที่อาจจะให้อารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป

เช่น เลือกใช้แสงช่วงเช้า สดใส หรือ แสงเย็นหลัง 4 โมง ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น หรือหากต้องการภาพเงาเข้มๆ ก็อาจเลือกใช้แสงธรรมชาติในช่วงเที่ยงหรือบ่าย แต่ระวังอาจดูภาพแข็งจนเกินไป ไม่มีชีวิตชีวา

162936243430

นอกจากนี้ สำหรับคนที่ไม่สะดวกรอแสงธรรมชาติ อาจเลือกใช้วิธีจัดแสงไฟง่ายๆ ในบ้าน เช่น สตูดิโอถ่ายภาพสำเร็จรูป ที่ช่วยให้ได้แสงและเงาที่เหมาะสม มองเห็นสินค้าชัดเจน และสะอาดตา 

แต่ถ้าสินค้ามีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะใช้ฉากหลังแบบสำเร็จรูป ก็สามารถวางสินค้าบนวัตถุสีพื้น ในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอได้เช่นกัน


 3. ภาพสินค้าคมชัด 

สิ่งที่หลายคนมองข้าม แต่มีความสำคัญมากในการถ่ายภาพสินค้า คือ “ความคมชัดของภาพ” เพราะนอกจากจะทำให้เห็นสินค้าชัดจนแล้ว ยังทำให้ดูสวยน่าซื้อแล้ว และทำให้ร้านค้าดูเป็นมืออาชีพด้วย ดังนั้นเมื่อต้องถ่ายภาพสินค้าทุกครั้ง อย่าลืมเช็คความชัดเจน จุดโฟกัสของภาพ รวมถึงขนาดของภาพที่โพสต์ลงขายในแพลตฟอร์มต่างๆ ด้วย

ซึ่งอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องใส่ใจคือ ขนาดของภาพที่จะใช้ในแต่ละแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้ถาพที่แสดงผลออกมาคมชัดด้วย ยกตัวอย่างการขายสินค้าในเฟซบุ๊ก ที่มีขนาดภาพแต่ละตำแหน่งต่างกัน (ข้อมูล ณ ก.ค. 64) ดังนี้

162936195764

 4. ตกแต่งพอดี มีรสนิยม 

แม้รูปแบบการถ่ายภาพสินค้าแต่ละประเภทจะแตกต่างกันออกไป ตามทิศทางของแบรนด์ และลักษณะสินค้า แต่ไม่ว่าจะเป็นสินค้าออนไลน์ประเภทใดก็สามารถใช้เทคนิคตกแต่งภาพสุดคลาสสิก ที่จะช่วยชูจุดเด่นของสินค้าได้อย่างดี เช่น การถ่ายบนพื้นหลังสีขาว หรือสีพื้นเรียบๆ ที่ดูสะอาดตาและเห็นสินค้าชัดเจน 

ถ้าหากต้องการโชว์วัตถุอื่น มาประกอบตัวสินค้าด้วย ก็ควรใช้วัตถุที่สอดคล้องกับสินค้า หรือเป็นของที่ใช้ร่วมกับสินค้าชนิดนั้นๆ โดยใช้โทนสีที่สอดรับ และ/หรือ คู่สีตรงข้ามกับตัวสินค้า แต่ไม่ควรใช้สีมากจนเกิน รวมถึงเลือกตำแหน่งของตกแต่งที่เหมาะสม ไม่รกหรือแน่น ไม่ทำให้สินค้าหลักถูกแย่งความสนใจ

เทคนิคเหล่านี้ จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยส่งเสริมให้สินค้าหลักดูน่าซื้อ โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งช่วยสร้างการจดจำให้ลูกค้าได้อีกทาง

ทั้งนี้ การทำตามทริคที่กล่าวไปทั้งหมด ใช่ว่าจะทำให้คุณถ่ายภาพสินค้าออกมาสวยเด่น เหมือนช่างภาพมืออาชีพได้ทันทีในครั้งแรก แต่ต้องอาศัยการ “ฝึกถ่ายภาพ” บ่อยๆ ที่จะช่วยให้คุณจับทางการถ่ายภาพสินค้าได้ดีขึ้นตามลำดับ

รวมถึงการมองหาแรงบันดาลใจ ขยันส่องไอเดียถ่ายภาพสินค้าที่กำลังได้รับความนิยม แล้วนำมาประยุกต์ใช้ได้เหมาะสม ก็จะทำให้ภาพสินค้าดูทันสมัย ไม่จำเจ พร้อมดึงดูดสายของลูกค้าให้เข้ามากดซื้อสินค้าในร้านได้มากขึ้นแน่นอน

ที่มา: POST Family