7 วัน'ทีมCCRT'พบป่วย'โควิด19สีแดง'ตกค้างในชุมชนราว 330 คน
สธ.เผยผลการดำเนินงาน 'ทีมCCRT' พื้นที่กทม.-ปริมณฑล 7 วัน ค้นเจอผู้ติดโควิด 11% 'ผู้ป่วยโควิดสีแดง'ตกค้างในชุมชน ราว 330 คน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 11 ส.ประเด็น ผลการปฏิบัติการเชิงรุกCCR Team สธ.และทีมภูมิภาคในพื้นที่กทม,และปริมณฑลนพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดสธ. กล่าวว่า สถานการณ์โควิด 19 ที่ระบาดรุนแรงในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ซึ่งสธ.ได้กำหนดชื่อทีมCCRT ซึ่งเป็นความร่วมมือของสธ. ชมรมแพทย์ชนบท เครือข่ายภาคประชาสังคมและกรุงเทพมหานคร ได้ภารกิจกู้ภัยโควิดเชิงรุกในพื้นที่กทม.และปริมณฑลโดยดำเนินการมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 วันที่ 14-16 ก.ค. 2564 ครั้งที่ 21-23 ก.ค.และครั้งที่ 3 วันที่ 4-10 ส.ค.นี้ มีทีมร่วมปฏิบัติการ 41 ทีม ผู้ปฏิบัติงาน 400 คน แต่ละทีมประกอบด้วยแพทย์ เภสัชพร พยาบาลและสหวิชาชีพในการทำหน้าที่ร่วมกัน โดยทำงานเชิงรุก 4 ภารกิจหลัก คือ ตรวจ ค้นหา รักษาและฉีดวัคซีน
ผลการปฏิบัติงานในครั้งที่ 3 ภารกิจการตรวจและค้นหาใช้ชุดตรวจATK มีการตรวจสะสม 145,566 ราย พบผลเป็นบวก 16,186 ราย คิดเป็น 11.1 % เมื่อเปรียบเทียบผลใน 2 ครั้งที่ผ่านมา โดยครั้งที่1 เจอผลบวก 9 % ครั้งที่ 2 เจอ 16.1% ซึ่งในเรื่องความกว้างขวาง ทั่วถึงในการตรวจนั้นครั้งที่ 3 ได้มีการตรวจเข้าไปในชุมชนที่หลากหลาย ในคอนโดมิเนียม ที่พักอาศัยที่อยู่อย่างแออัด และชุมชนแออัดทั้งที่ขึ้นและไม่ขึ้นทะเบียนหลายร้อยชุมชน ผลที่เจอผู้ติดเชื้อ 11%นั้นสะท้อนว่าอัตราการติดเชื้อในชุมชนพื้นที่กทม.และปริมณฑลยังอยู่ในระดับที่ต้องติดตามและน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
จากการประเมินอาการของผู้ติดเชื้อ พบว่า ผู้ป่วยสีเขียว สะสม 11,216 คน คิดเป็น 63.3 % สีเหลือง 4,639 คน คิดเป็น 28.7% และสีแดง 331 รายคิดเป็น 2 % สะท้อนว่ายังมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ยังตกค้างในชุมชนและยังเข้าไม่ถึง แม้กระทั่งในเรื่องการตรวจเพื่อวินิจฉัยตัวเองว่าติดโควิดหรือไม่ และมีการรับยาฟาวิพิราเวียร์ 9,343 คน คิดเป็น 57.7 %ของผู้ที่มีผล ATKเป็นบวก โดยจำนวนยาฟาวิพิราเวียร์ที่ผู้ป่วยได้รับ467,150 เม็ด รับยาฟ้าทะลายโจร 3,614 คน คิดเป็น 22.3%ของผู้ที่มีผลATKเป็นบวก และการฉีดวัคซีน สะสม 7,761 คน