งานเข้า! ต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี ถูกร้อง ปอท. ปม 'วัคซีนผสมน้ำ'

งานเข้า! ต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี ถูกร้อง ปอท. ปม 'วัคซีนผสมน้ำ'

ฮอตโซเชียล งานเข้า! ต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี ถูกร้อง ปอท. ปม "วัคซีนผสมน้ำ" ศรีสุวรรณชี้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน


วันนี้ เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ศูนย์ราชการฯ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมาร้องเรียนกล่าวโทษนายปิติ ภิรมย์ภักดี หรือต๊อด ทายาทเครื่องดื่มตราสิงห์ ฐานนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ กรณีโพสต์เฟซบุ๊กตำหนิการจัดสรรวัคซีนของรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในขณะนี้นั้น

การโพสต์ข้อความที่เป็นประเด็นปัญหาก็คือคำว่า “ด่านหน้าต้องจับฉลากเพื่อจะได้ฉีด บางโรงบาลใช้วิธีผสมน้ำเพื่อให้ครบคน ผมขอสละตัวเองเป็นกระบอกเสียงให้พวกเค้าครับ และเมื่อผมเอาจริงคือเอาจริง”

162882540997

การโพสต์ข้อความดังกล่าวมีสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ได้นำไปเผยแพร่อย่างมากมาย ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน และเป็นที่สงสัยกันมากว่า วัคซีนที่แพทย์พยาบาลกำลังฉีดให้กับประชาชน เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 อยู่ในขณะนี้นั้นมีการ “ผสมน้ำ” ในบางโรงพยาบาลเพื่อฉีดให้กับประชาชนได้ด้วยหรือ ? หรือหากจะแก้ตัวว่าผิดหลงเขียนไม่ครบตกคำว่า “เกลือ” ไปก็ไม่อาจฟังขึ้น เพราะใช้คำว่า “บางโรงบาลใช้วิธีผสมน้ำเพื่อให้ครบคน” อยู่ด้วย เป็นการกล่าวหาแพทย์-พยาบาลว่ามีการใช้วัคซีนผสมน้ำ ซึ่งไม่มีหลักวิชาการทางการแพทย์ที่ไหนในโลกเขาทำกัน

และก่อนหน้านี้กรมควบคุมโรคก็ออกมาชี้แจงอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า “วัคซีนบางชนิดมีความเข้มข้น ต้องผสมกับน้ำเกลือ (Normal Saline) ซึ่งในโรงพยาบาลก็มีการใช้น้ำเกลือที่ได้มาตรฐานอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นการผสมน้ำอย่างแน่นอน”

การโพสต์ข้อความดังกล่าว เชื่อว่ามีเจตนาตาม ปอ.มาตรา 59 ที่ไม่เป็นไปตามปกติวิสัยที่ปุถุชนพึงกระทำได้ แต่ถ้าคุณต๊อดยืนยันว่ามีหลักฐานความจริง ขอให้เปิดเผยออกมาว่ามีโรงพยาบาลแห่งใด ใช้วิธีการผสมวัคซีนดังกล่าว

แต่ถ้าไม่มี ก็พึงระลึกไว้เถิดว่า การโพสต์หรือเขียนข้อความในลักษณะดังกล่าว โดยการนำเข้าข้อความสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือไม่ มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นความผิด เพราะมีลักษณะที่เป็นเท็จ อันก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน และอาจเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศฯ มีความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขปี 2560 ม.14(2) ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความมาร้องต่อ ปอท. ในวันนี้เพื่อแจ้งความเอาผิดตามกฎหมายดังกล่าวต่อนายต๊อด-ปิติ