เผยโฉมใหม่ “ศูนย์ฯสิริกิติ์” พร้อมเปิด ก.ย.65 ตอกย้ำศูนย์ประชุมใจกลางเมืองใหญ่ที่สุดของไทย
“เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์” ประกาศรุกตลาดธุรกิจไมซ์ประเทศไทยครั้งใหม่ หลังทุ่มงบกว่า 15,000 ล้านบาท พัฒนาปรับปรุง “ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” เป็นสุดยอดศูนย์ประชุมใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
เพิ่มศักยภาพของโครงการด้วยการขยายพื้นที่มากขึ้นถึง 5 เท่า รองรับการจัดงานประชุมหรืออีเวนต์ระดับเวิลด์คลาสได้ทุกรูปแบบอย่างไร้ขีดจำกัด
นายปณต สิริวัฒนภักดี กรรมการ บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่บริษัทฯยังเล็งเห็นความสำคัญในการเดินหน้าพัฒนาโครงการ “ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์” (Queen Sirikit National Convention Center หรือ QSNCC) ให้เสร็จสมบูรณ์ตามแผนที่วางไว้ สอดคล้องกับแผนการลงทุนระยะยาวของบริษัทฯ ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงการศูนย์ประชุมระดับเวิลด์คลาสแห่งใหม่ของเอเชีย
“บริษัทฯเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของประเทศไทยที่มีจุดแข็งหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าของภูมิภาค การมีสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคที่ครบครัน พร้อมด้วยกลุ่มคู่ค้าทางธุรกิจและซัพพลายเออร์ที่มีคุณภาพ อีกทั้งยังมีศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ และมีการสืบสาน รักษา ต่อยอดให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน จึงทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าศูนย์ฯสิริกิติ์จะเป็น The Ultimate Inspiring World Class Event Platform for All ที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้านานาชาติ และจะสามารถดึงดูดเม็ดเงินเข้ามาในประเทศไทยเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นได้อย่างแน่นอน”
นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ถือเป็นหัวใจของการเริ่มต้นอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE: การจัดประชุม ท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล สัมมนา และจัดแสดงสินค้า) ในประเทศไทย โดยตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา ศูนย์ฯสิริกิติ์เป็นสถานที่ที่บันทึกเรื่องราวความทรงจำของงานประชุมและอีเวนต์สำคัญๆ ทั้งในระดับชาติและนานาชาติกว่า 20,000 งาน ด้วยประสบการณ์มากกว่า 3 ทศวรรษ ประกอบกับบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญ และมีความเป็นมืออาชีพ เราเชื่อมั่นว่าศูนย์ฯสิริกิติ์โฉมใหม่ จะสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า และรองรับการจัดงานได้ในทุกรูปแบบได้อย่างแน่นอน
ศูนย์ฯสิริกิติ์โฉมใหม่มีพื้นที่รองรับการจัดการประชุมและนิทรรศการมากถึง 78,500 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยฮอลล์สำหรับการจัดนิทรรศการขนาดใหญ่ 2 ฮอลล์ พื้นที่รวมมากกว่า 45,000 ตารางเมตร ห้องสำหรับจัดประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ 2 ห้อง พื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร และห้องประชุมย่อยที่สามารถรองรับการประชุมได้กว่า 50 ห้อง นอกจากนี้ศูนย์ฯสิริกิติ์ยังเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน และมีที่จอดรถภายในอาคารรองรับได้มากกว่า 2,700 คัน อำนวยความสะดวกให้แก่ทั้งผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงาน ขณะนี้ศูนย์ฯสิริกิติ์ได้เริ่มเปิดจองพื้นที่และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้จัดงานเป็นอย่างมาก
“เตรียมพบกับศูนย์ฯสิริกิติ์โฉมใหม่ที่จะมาสร้างความคึกคักและสีสันให้กับวงการอุตสาหกรรมไมซ์ ในเดือน ก.ย.2565 หลังเพิ่มศักยภาพของโครงการด้วยการขยายพื้นที่มากขึ้นถึง 5 เท่า พร้อมรับผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 100,000 คนต่อวัน ตอกย้ำการเป็นศูนย์ประชุมใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย”
ทั้งนี้ศูนย์ฯสิริกิติ์มีมูลค่าโครงการ 15,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนขนาดที่ดิน 53 ไร่ พื้นที่โครงการ 280,000 ตารางเมตร เจ้าของโครงการบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด, ผู้พัฒนาโครงการคือบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), ผู้รับเหมางานหลักคือ บริษัท นันทวัน จำกัด, ผู้ออกแบบงานสถาปัตยกรรมคือ บริษัท ดีไซน์ 103 อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, ผู้ออกแบบงานวิศวกรรมโครงสร้างคือ บริษัท เบคา (ไทยแลนด์) จำกัด, ผู้ออกแบบงานตกแต่งภายในคือ บริษัท ออนเนี่ยน จำกัด, ผู้ออกแบบงานภูมิสถาปัตยกรรมคือ บริษัท ฉมา จำกัด, ผู้ออกแบบงานแสงส่องสว่างคือ บริษัท โบ สไตเบอร์ ไลท์ติ้ง ดีไซน์ (ประเทศไทย) จำกัด, ผู้ออกแบบงานป้ายและกราฟฟิกคือ บริษัท บีอาวเฟรนด์ จำกัด, ที่ปรึกษาด้านอาคารประหยัดพลังงานคือ บริษัท แอฟริคัส จำกัด, ผู้บริหารโครงการคือ บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) ส่วนผู้รับเหมางานเสาเข็มเจาะคือ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน)