คลังเผย 'คนละครึ่ง' - 'ยิ่งใช้ยิ่งได้' เชื่อมเดลิเวอรี่ เริ่มต.ค.นี้

คลังเผย 'คนละครึ่ง' - 'ยิ่งใช้ยิ่งได้' เชื่อมเดลิเวอรี่ เริ่มต.ค.นี้

คลังเผยแพลตฟอร์มดิลิเวอร์รี่อาหารและสินค้าอื่นพร้อมใช้ผ่าน”คนละครึ่งเฟส3-ยิ่งใช้ยิ่งได้”ต้นต.ค.นี้ หวังเพิ่มช่องทางการใช้จ่าย โดยยอดใช้จ่ายเงินของโครงการล่าสุดอยู่ที่กว่า 5.7 หมื่นล้านบาท

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างดำเนินการเชื่อมระบบแพลตฟอร์มดิลิเวอร์รี่การส่งสินค้า อาหารและบริการต่างๆเข้ากับระบบโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล คาดว่า จะเริ่มนำมาใช้ได้ภายในเดือนต.ค.นี้ ทั้งนี้ โครงการคนละครึ่งของรัฐบาลได้ดำเนินการอยู่ในเฟสที่ 3

สำหรับผู้ประกอบการดิลิเวอร์รี่ที่คาดว่า จะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 3 มีจำนวนประมาณ 6 ราย ประกอบด้วย ไลน์แมน ฟู้ดแพนด้า โรบินฮู้ด แกร็บฟู้ด โกเจ๊ก และช้อปปี้ฟู้ด ทั้งนี้ เมื่อสามารถเชื่อมโยงระบบด้วยกันได้แล้ว ทางกระทรวงการคลังจะเปิดให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ได้สมัครเข้าร่วมโครงการอีกครั้ง

“เมื่อเราสามารถจัดการเชื่อมระบบของผู้ประกอบการดิลิเวอร์รี่กับคนละครึ่งได้แล้ว คาดว่า เราจะเปิดให้ใช้บริการได้ราวต้นเดือนต.ค.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่เราจะทำการเติมเงินคนละครึ่งในรอบที่สอง”

ผู้อำนวยการสศค.กล่าวว่า การดำเนินการเชื่อมระบบดังกล่าว จะเป็นช่องทางการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้ร่วมโคงการคนละครึ่ง ซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวก เนื่องจาก สถานการณ์โควิด-19 ทำให้การจับจ่ายใช้สอยแบบเฟสทูเฟสมีความยากลำบาก เมื่อนำแพลตฟอร์มดิลิเวอร์รี่มาใช้ ก็จะทำให้การจับจ่ายใช้สอยมีความคล่องตัวมากขึ้น ก็จะทำให้ยอดการใช้จ่ายในโครงการเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ ยอดการใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งอยู่ที่จำนวน 5.7 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น การใช้จ่ายผู้ร่วมโครงการ 2.92 หมื่นล้านบาท และ การเติมเงินของรัฐบาล 2.84 หมื่นล้านบาท

ส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้นั้น มียอดการใช้จ่ายอยู่ที่ 1.25 พันล้านบาท ซึ่งถือว่า ยังมีจำนวนที่ไม่มากนัก ซึ่งเราก็เตรียมที่จะเชื่อมแพลตฟอร์มผู้ให้บริการดิลิเวอร์รี่สินค้าประเภทอาหารที่จดทะเบียนนิติบุคคลเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ด้วย เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้จ่ายของผู้ร่วมโครงการด้วย

สำหรับจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ ล่าสุด โครงการคนละครึ่งอยู่ที่ 26.7 ล้านราย ส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้อยู่ที่ 4.67 แสนราย