สสจ.สุรินทร์ แจงกรณีหนุ่มโพสต์ ถูกสวมสิทธิ์ ‘หมอพร้อม’ ฉีดวัคซีน

สสจ.สุรินทร์ แจงกรณีหนุ่มโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถูกสวมสิทธิ์ฉีดวัคซีน ของระบบ "หมอพร้อม" และผู้สวมสิทธิ์ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ด่านหน้า

 เมื่อวันที่ 18 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความถึงการสวมสิทธิ์ฉีดวัคซีนผ่านระบบ “หมอพร้อม” ระบุนักบอลอาชีพกลายเป็น เจ้าหน้าที่ด่านหน้าเฉย เลขบัตรประชาชนตัวเอง !! แต่ไม่ใช่ชื่อตัว เอง เป็นงง !! เห็นออกข่าวทุกวันไม่คิดว่าวันนี้ จะมาโดนเอง #โดนแล้วล่ะ สวมสิทธิ์ฉีดวัคซีนก็มาคร้าบ #เจ้าหน้าที่ด่านหน้าเขตจังหวัดสุรินทร์

ทีมข่าวได้เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ เป็นสถานที่ฉีดวัคซีนและลงทะเบียนล่วงหน้า โดยบรรยากาศวันนี้ได้มีผู้สูงอายุแต่ละตำบลมาฉีดวัคซีนกันเป็นจำนวนมา  จากนั้นทีมข่าวได้พบกับนายแพทย์สินชัย ตันติรัตนานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.สุรินทร์ ได้กล่าวว่า ในขั้นตอนของการทำงานการฉีดวัคซีนประชาชนทั่วไป หรือแม้กระทั่งบุคลากรทางสาธารณสุข เราก็จะมีการลงข้อมมูลเตรียมไว้ ซึ่งในการที่จะฉีดมีจำนวนมากก็จะมีการเตรียมข้อมูลการผ่านระบบสามหมอก็ตามหรือว่าตามที่ท่านได้ไปแจ้งสิทธิ์หรือไปขอลงข้อมูลที่โรงพยาบาลหรือหน่วยบริการที่อยู่ใกล้บ้านท่าน กลุ่มพวกนี้ก็จะถูกลงข้อมูลไว้ในระบบ และก็วันที่ท่านมาตรวจวันที่ท่านมารับบริการการฉีดวัคซีน ทางหน่วยบริการ ณ จุดนั้นหน่วยที่ฉีดก็จะมีการตรวจสอบจากบัตรประจำตัวประชาชนของท่านอีกครั้งหนึ่ง 

ถ้าพบว่าถูกต้องก็จะเข้าสู่กระบวนการในการที่จะฉีดวัคซีนตามประเภทของกลุ่มวัยตามชนิดของเข็มว่าเป็นเข็มที่เท่าไหร่ ในกรณีของการฉีดวัคซีน ซึ่งเราเข้าใจว่าระบบที่ทำไว้ในระบบการที่แต่เดิมเป็นระบบหมอพร้อมนั้น ข้อมูลจะถูกดึงเข้าไปฐานข้อมูลกลาง การใส่ชื่อนามสกุลเข้าไป มันก็จะขึ้นเลขบัตรประชาชนขึ้นมา ทั้งนี้อาจจะพบการผิดพลาดได้ แต่ผมเชื่อว่าน้อยมาก เพราะขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนของการจอง ถ้ามีตัวบุคคลมายืนยันจากหน้างานก็ตาม หลังจากที่ลงข้อมูลไปแล้วก็จะไปสู่ขั้นตอนการนัดหมายตรวจสอบ ท่านจะมาด้วยตัวเองหรือให้ใครมาก็ตาม ซึ่งเมื่อถึงวันนัดท่านจะถูกตรวจสอบโดยระบบการฉีดวัคซีน ดูจากบัตรประชาชนของท่าน เพื่อลงข้อมมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเข้าไปรวมถึงการฉีดเข็ม  

ทั้งนี้ ถ้าหากชื่อที่จองไม่ตรงกับตัว ให้ท่านไปที่หน่วยบริการที่ใกล้กับท่านมากที่สุด โรงพยาบาลที่ใกล้กับท่านมากที่สุด และแจ้งข้อผิดพลาดให้กับทางบุคลากรที่นั่น เขาจะเข้าไปตรวจสอบระดับหนึ่งเท่านั้น พอตรวจสอบเสร็จก็จะเข้าไปเรื่องของการยืนยันตัวบุคคลให้กับทางข้อมูลส่วนกลางทราบ และก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่ถูกต้อง และในกรณีที่ผิดพลาดในลักษณะของการจองต้องขออภัยจริง ๆ ว่าอาจจะเกิดได้แต่น้อยมาก เราไม่ประสงค์ให้เกิดอย่างนั้น 

ในส่วนของการลงข้อมูลไปว่าบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลด่านหน้าจริงหรือไม่นั้น เราเรียนว่าเราตรวจสอบได้ระดับหนึ่ง กรณีถ้าท่านเป็นบุคลากรทางสาธารณสุขอันนี้ไม่มีปัญหา โดยระบบของทางกระทรวงฯเรามีฐานข้อมูล หรือว่าในระบบของราชการมีฐานข้อมูลอยู่แล้วฉะนั้นสามารถตรวจสอบได้ และถ้าเกิดว่าเป็นไม่ใช่ข้าราชการส่วนนี้อาจจะยากนิดหนึ่ง อย่างเช่น กู้ชีพ กู้ภัย หรือแม้กระทั่งจิตอาสาในบางกลุ่มก็ถือว่าในกลุ่มที่ทางเราไม่สามารถตรวจสอบจากตัวฐานข้อมูลได้ แต่เราสามารถตรวจสอบได้จากผู้ที่ทำงานร่วมกับท่านได้ ซึ่งขั้นนี้อาจจะยุ่งยากนิดหนึ่ง เพราะไม่มีฐานข้อมูลเหมือนแพทย์ พยาบาล

สุดท้ายขอยืนยันว่า ไม่ว่าท่านจะเป็นใครก็ตามท่านสามารถที่จะประสานกับทางหน่วยงานทางสาธารณสุขหรือหน่วยงานราชการเพื่อขอลงข้อมูลไว้ โดยตัวท่านเองหรือว่าท่านไม่สะดวกกรณีติดบ้านติดเตียงหรือติดภารกิจอื่น ๆ ท่านก็ฝากเขาลงไว้ก่อนก็ได้ ก็ช่วยอำนวยความสะดวกในการลง และก็ให้สิทธิ์ตามลำดับไม่ว่าในตามนโยบายเองหรือว่าตามความจำเป็นเร่งด่วนก็ยังเป็นลักษณะนั้น ถ้าพบว่าข้อมูลของท่านถูกนำไปใช้หรือว่ามันเกิดความซ้ำซ้อน ให้ท่านไปที่หน่วยบริการหรือโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ท่านและแจ้งฐานข้อมูลตรงนั้น แจ้งความผิดพลาดตรงนั้นให้เขาช่วยตรวจสอบและก็ยืนยัน