โรบินฮู้ดชิงตลาด‘เที่ยวออนไลน์’ ชูค่าคอมฯ 0% เขย่าคู่แข่ง!
นับตั้งแต่บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด บริษัทลูกของธนาคารไทยพาณิชย์ ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่น “โรบินฮู้ด” รุกทำตลาด“ฟู้ดดิลิเวอรี่”ด้วยการชูจุดขายค่าจีพี(Gross Profit)ที่ 0% ล่าสุดเตรียมนำคอนเซ็ปต์เดียวกันมาเจาะตลาดออนไลน์ทราเวลเอเย่นต์(OTA)เพิ่ม!
หลังจากโรบินฮู้ดดันฟู้ดดิลิเวอรี่จนสามารถสร้างฐานลูกค้ากว่า 2 ล้านรายในปัจจุบัน ให้บริการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 4 จังหวัด มีร้านอาหารเข้าร่วมมากกว่า 1.3 แสนราย ไรเดอร์ 2.6 หมื่นคน โดยเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาได้ออกโปรโมชั่นดิลิเวอรี่ฟรี พบว่ามียอดคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เพิ่มจากวันละ 2 หมื่นรายการ เพิ่มขึ้น 7-8 เท่า จนมียอดออเดอร์เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1.5 แสนรายการ และเคยแตะเพดานสูงสุดที่วันละ 2 แสนรายการต่อวัน!
ทำให้โรบินฮู้ดทะยานเป็น “อันดับ 2” ของตลาดฟู้ดดิลิเวอรี่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ทั้งยังช่วยกระจายรายได้ไปยังร้านอาหารรายเล็กที่ยังไม่เคยมียอดออเดอร์อาหารเลยกว่า 5 หมื่นร้านค้า
สีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า “Next Chapter” หรือก้าวต่อไปของโรบินฮู้ดภายในปี 2565 จะเปิดตัวบริการ “โรบินฮู้ด ทราเวล” อย่างเป็นทางการในเดือน ม.ค.หน้า ด้วยการชูคอนเซ็ปต์ “Zero GP OTA” เก็บค่าคอมมิชชั่น 0% จากผู้ประกอบการโรงแรมและท่องเที่ยว เพื่อหนุนโรบินฮู้ดพุ่งสู่เป้าหมายการเป็น “ซูเปอร์แอพ” (Super App) ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทั้งกิน เที่ยว ส่ง จอง
โดยสิ่งสำคัญของการทำโรบินฮู้ดทราเวลคือมุ่งเรียงร้อย “Customer Journey” ของลูกค้า ด้วยการออกแบบบริการจองสินค้าท่องเที่ยวให้ครอบคลุมทั้งห้องพักโรงแรม เที่ยวบิน ทัวร์-กิจกรรม โดยเฉพาะทัวร์ภายในท้องถิ่นเพื่อกระจายรายได้สู่ฐานราก รวมถึงบริการเช่ารถ ตอบโจทย์ลูกค้าตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนเดินทางจนถึงการจองสินค้าท่องเที่ยว
“ธุรกิจ OTA หลายๆ รายของต่างประเทศจะแข่งกันที่ราคา และมีการเก็บค่าคอมมิชชั่นจากผู้ประกอบการประมาณ 30-35% เพื่อทำกำไร แต่โรบินฮู้ดเก็บค่าคอมมิชชั่นที่ 0% เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถออกโปรโมชั่น ขายแพ็คเกจแบบมัดรวม (Bundle Packages) ในการดึงดูดลูกค้าได้ เช่น แพ็คเกจห้องพักแถมสปา แพ็คเกจห้องพักแถมอาหารมื้อค่ำ และอื่นๆ นอกจากนี้โรบินฮู้ดทราเวลยังเน้นให้ลูกค้าสามารถจองสินค้าท่องเที่ยวแบบยืดหยุ่น รับเทรนด์พฤติกรรมการจองแบบกระชั้นชิด (Last Minute) และมีการรับประกันความพึงพอใจด้วย”
พงศ์ศักดิ์ ตฤณธวัช ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ โรบินฮู้ด เล่าเสริมว่า บนแพลตฟอร์มของโรบินฮู้ด นอกจากจะให้บริการดิจิทัลเพย์เมนต์ทั้งหมดแล้ว ยังมีบริการ “เที่ยวก่อน ผ่อนทีหลัง” ได้ด้วย สามารถนำคะแนนสะสมของบัตรเครดิตและพันธมิตรต่างๆ มาแลกเป็นสิทธิประโยชน์ และในอนาคตมีการเปิดประเทศให้ท่องเที่ยวต่างประเทศได้ จะมีการนำเสนออัตราแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศในเรตพิเศษแก่คนไทยอีกด้วย โดยจะใช้ฐานลูกค้าของโรบินฮู้ดที่มีอยู่กว่า 2 ล้านราย รวมถึงลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์ที่มีการเปิดบัญชี 16.3 ล้านบัญชี และมีผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่น SCB Easy อีก 12 ล้านราย ในการทำตลาดโรบินฮู้ดทราเวล
และในเมื่อไม่มีการเก็บค่าคอมมิชชั่นและค่า Visibility Booster ซึ่งเป็นตัวช่วยเพิ่มอัตราการปรากฏของสินค้าท่องเที่ยวบนหน้าแพลตฟอร์ม ทางโรบินฮู้ดเลือกใช้วิธีเรียงการนำเสนอผู้ประกอบการกลุ่มที่เป็น “Preferred Partners” ซึ่งมีการนำเสนอดีลพิเศษ เพิ่มสิทธิประโยชน์ เช่น ให้วอยเชอร์ส่วนลดสำหรับใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ และของแถมต่างๆ จัดเป็นแพ็คเกจให้แก่ลูกค้า ให้ปรากฏอยู่ในหน้าแรกๆ ของแพลตฟอร์ม เนื่องจากผู้ประกอบการบางแห่งมีข้อตกลงกับ OTA รายอื่นว่าไม่สามารถขายในราคาต่ำกว่านี้ได้ ถ้าเช่นนั้น...โรบินฮู้ดบอกไม่เป็นไร! ผู้ประกอบการสามารถเสนอขายในราคาเท่ากับ OTA รายอื่นได้ แต่ขอมีสิทธิประโยชน์เพิ่มแต่แก่ลูกค้าแทน
อย่างไรก็ตาม โรบินฮู้ดยังต้องมีการจัดเก็บค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงจากผู้ประกอบการในอัตรา 2.98% (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมในการเชื่อมต่อระบบ (Processing Fee) และค่าชาร์จที่ต้องจ่ายแก่ผู้ให้บริการบัตรเครดิต เดบิต และพรีเพดการ์ด (MDR)
“โรบินฮู้ดจะเป็น OTA หนึ่งเดียวที่ไม่มีการเก็บค่าคอมมิชชั่นจากโรงแรม เตรียมให้บริการอย่างไม่เป็นทางการในเดือน พ.ย.นี้ และให้บริการอย่างเป็นทางการทั่วประเทศในไตรมาส 1 ปี 2565 ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่ตลาดคนไทยสามารถออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศได้อีกครั้ง”
หลังต้องเผชิญกับวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยจากงานวิจัยของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่าคนกรุงเทพฯต้องการเที่ยวต่างภาคมากถึง 60-70% หากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น เดินทางได้สะดวกขึ้น และมีการกระจายวัคซีนมากขึ้น!