'ครม.' ไฟเขียวต่อ 'VAT' 7% 2 ปีรวด หนุนเศรษฐกิจฟื้นตัวจากโควิด-19
ครม.เคาะแล้วยืนแวต 7 % อีก 2 ปีรวด จาก 1ต.ค. 2564 - 30 ก.ย. 2566 หนุนเศรษฐกิจฟื้นตัวจากโควิด-19
รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันนี้ (24 ส.ค.) เห็นชอบให้ต่ออายุการปรับลดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ต่อไปอีก 2 ปี จากเดิมต้องเก็บ 10% ปรับลดลงเหลือ 7% ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2564 – 30 ก.ย.2566 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
โดยการคงแวตจาก 7% จากเดิมที่จะต้องปรับขึ้นเป็น 10% ไปอีก 2 ปีเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากผลกระทบจากโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าการคงอัตรา VAT ไว้ที่ 7% ไม่มีผลต่อการคำนวณรายได้ในปีงบประมาณ 2565 - 2566 เนื่องจากใช้ฐานในการคำนวณ VAT ที่ 7% อยู่แล้ว
ทั้งนี้กระทรวงการคลังมีการรายงานว่าการต่ออายุ VAT 7% นั้นไม่ทำให้รัฐสูญเสียรายได้แต่จะไม่มีรายได้เพิ่มเติมเข้ามาจากการปรับอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มทุกๆ1% จะได้รายได้เพิ่ม 7 หมื่นล้านบาท แต่การที่ยังไม่เพิ่ม VAT ก็ทำให้เกิดการจับจ่าย การลงทุนและการขยายธุรกิจ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า “คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (มาตรการขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)) โดยให้คงจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ในอัตราร้อยละ 7 สำหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการนำเข้าทุกกรณีที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 - 30 กันยายน 2566 พร้อมทั้งรับทราบมาตรการภาษีบรรเทาผลกระทบของประชาชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID - 19 ที่กระทรวงการคลังจะดำเนินการไปควบคู่กัน เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ประชาชนและผู้ประกอบการและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)”
“นอกจากมาตรการขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ที่เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในครั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากรได้ดำเนินมาตรการภาษีบรรเทาผลกระทบของประชาชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ไปพร้อมกัน"