'กรุงศรี ฟินโนเวต' ตั้ง 'กองทุนสตาร์ทอัพ' 3พันล้าน ปั้นสู่ยูนิคอร์น-เพิ่มทางเลือกลงทุน

'กรุงศรี ฟินโนเวต' ตั้ง 'กองทุนสตาร์ทอัพ' 3พันล้าน ปั้นสู่ยูนิคอร์น-เพิ่มทางเลือกลงทุน

"กรุงศรีฟินโนเวต" ตั้งกองทุนสตาร์ทอัพครั้งแรกในไทย "ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I”  มูลค่า 3พันล้าน เตรียมเปิดขายนักลงทุนสถาบัน ส.ค.-นักลงทุนรายใหญ่ พ.ย. หนุนสตาร์ทอัพเติบโต พร้อมตั้งเป้า 3-5 ปี ดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด  ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า กรุงศรี ฟินโนเวต ได้จัดตั้งกองทุนเพื่อลงทุนในสตาร์ทอัพ “ ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I”  ซึ่งเป็นกองทุนสตาร์ทอัพครั้งแรกของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  มูลค่า 3,000 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุน 3 ปี 

กองทุน“ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I” มุ่งเข้าลงทุนในสตาร์ทอัพทั้งไทย สัดส่วน 70% และต่างประเทศ สัดส่วน 30% โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เน้นลงทุนในสตาร์อัพ ระดับซีรี่ส์ A ขึ้นไปใน 3 กลุ่มธุรกิจ คือ ธุรกิจฟินเทค 40%  อีคอมเมิร์ซ 30% และยานยนต์ 30%  ในกลุ่มสตาร์ทอัพที่อาจฟื้นตัวเร็ว หรือได้รับโอกาสทางธุรกิจในช่วงโควิด-19 ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว เป็นต้นหรือที่เรียกว่า Post-Pandemic Boom Startup

กรุงศรี ฟินโนเวต จะเริ่มเดินสายนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (Roadshow) และเปิดขายให้กับนักลงทุนสถาบัน ตั้งแต่เดือนส.ค.นี้ และเตรียมขายให้กับนักลงทุนรายใหญ่พิเศษ (Ultra High Net Worth) ผ่านกองทุนรวม บริหารจัดการโดย บลจ.กรุงศรีอยุธยา เดือน พ.ย.นี้         

163002334442

     

        

 นายแซม กล่าวว่า แม้ผลตอบแทนกองทุนนี้จะไม่สามารถการันตีได้ แต่มั่นใจว่าจะสร้างผลตอบแทนไม่น้อยกว่า ผลงานของกรุงศรี ฟินโนเวตที่เข้าลงทุน15 สตาร์ทอัพ เงินลงทุนมากกว่า 1,500 ล้านบาท ช่วง4 ปีที่ผ่านมา มีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 20.8% ถือว่ามากกว่าผลตอบแทนของบริษัทหรือกองทุนเวนเจอร์ต่างๆ เฉลี่ยที่ 18%

รวมถึง กองทุนนี้มีโมเดลจากญี่ปุ่นและสหรัฐที่ประสบความสำเร็จมาแล้วอีกทั้งได้ปิดความเสี่ยงระดับหนึ่ง เพราะไม่เพียงแต่ใช้ความเชี่ยวชาญการลงทุนสตาร์ทอัพของกรุงศรี ฟินโนเวตและเครือข่าย MUFG ที่ดูแลอยู่ทั่วโลกแล้ว ในส่วนนักลงทุนสถาบัน ยังมีโอกาสเข้าร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจสตาร์ทอัพที่อยู่ภายใต้กองทุนนี้ เพื่อช่วยต่อยอดธุรกิจ นำเสนอสินค้าและบริการที่เป็นนวัตกรรมร่วมผลักดันให้สตาร์ทอัพในไทยและอาเซียนเติบโตไปสู่ยูนิคอร์นหรือเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ  ตามเป้าหมาย 

ทั้งนี้คาดว่ากองทุนจะเริ่มลงทุนในสตาร์ทอัพรายแรกได้ในเดือนธ.ค.นี้ โดยขณะนี้ได้เริ่มคัดเลือกสตาร์ทอัพที่น่าสนใจลงทุนมีไม่ต่ำกว่า 10 บริษัทและน่าจะสามารถเข้าลงทุนได้แน่ราว 5  บริษัทนอกจากนี้สตาร์ทอัพในอาเซียนที่น่าสนใจ ได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ซึ่งมียูนิคอร์นจำนวนมาก และในประเทศที่ธนาคารกรุงศรีเข้าไปขยายธุรกิจ อย่างฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งมีเทคสตาร์ทอัพที่น่าสนใจ

นอกจากนั้นที่แตกต่างจากในตลาด กองทุนนี้ยังเปิดกว้างให้นักลงทุนรายใหญ่พิเศษ ที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนได้ง่ายขึ้นจะช่วยเพิ่มเม็ดเงินในการขยายธุรกิจที่มีศักยภาพอยู่แล้วให้ยิ่งขยายตัวเติบโตไปได้เป็นเท่าทวีคูณ

นายแซม กล่าวว่า ในระยะ3-5ปีข้างหน้า สตาร์ทอัพในไทยจะเติบโตแข็งแกร่งมากขี้น น่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดฯได้กว่า10 บริษัท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นสตาร์ทอัพที่กรุงศรีฟินโนเวตลงทุนมากกว่าครึ่งหนึ่ง  เช่น  ฟินโนมิน่า กำลังเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ อีก 2 ปีข้างหน้า หลังจาก ปี 2558 พบการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพเติบโตกว่า 3 เท่าจากปกติ ประกอบกับในปี 2564 ประเทศไทยมียูนิคอร์นรายแรกอย่าง Flash Express ที่สะท้อนภาพความสำเร็จ