สธ.เผยแผนจัดหาวัคซีนโควิด 140 ล้านโดส คาดฉีดตามเป้า 70% ในสิ้นปี
สธ. รายงานสถานการณ์โควิด ติดเชื้อรายใหม่ 17,984 ราย เสียชีวิต 292 ราย ฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 30 ล้านโดส ย้ำแผนจัดหาวัคซีน ถึงสิ้นปีรวมกว่า 140 ล้านโดส คาดฉีดตามเป้า 70% ในสิ้นปี
วันนี้ (28 ส.ค. 64) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์และแผนการฉีดวัคซีนโควิด 19 โดยระบุว่า สถานการณ์โควิด-19 ในวันนี้ มีผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19 จำนวน 20,535 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 17,984 ราย เสียชีวิต 292 ราย เสียชีวิตรวม 10,785 ราย ผู้ป่วยอาการหนักปอดอักเสบ 5,109 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 1,069 ราย
"หากดูแนวโน้มการติดเชื้อ ระบาด จากการติดตามแนวโน้มสถานการณ์ทั่วประเทศมีแนวโน้มชะลอตัว แต่ก็ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดความประมาท ขณะที่ กทม. การติดเชื้อยังคงระดับ 4,000 กว่ามาเป็นสัปดาห์ แม้จะไม่พุ่งสูงมากอย่างที่กังวล แต่ก็ต้องระมัดระวัง
"และต้องขอความร่วมมือการดำเนินการตามมาตรการต่างๆ จากพี่น้องประชาชน รวมถึงในพื้นที่ปริมณฑล และภาคกลางบางส่วน เช่น สมุทรปราการ ชลบุรี สมุทรสาคร ตัวเลขยังอยู่ระดับหลักพันต่อวัน ดังนั้น การดำเนินงานต้องเข้มข้นต่อเนื่อง"
- ต่างจังหวัด ติดเชื้อในพื้นที่และนำเข้า
ต่างจังหวัดมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น จากพี่น้องในพื้นที่ที่มีการระบาดกลับไปที่บ้าน ทั้งเยี่ยมญาติโดยไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ และคนที่ติดเชื้อกลับไปรักษาตัวที่บ้าน ขอความร่วมมือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม หากกลับไปต่างจังหวัดขอให้ระมัดระวัง แจ้งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่รับทราบ เพื่อจะได้มีการเฝ้าระวัง กักตัว ตามมาตรการในพื้นที่ เพื่อไม่ให้มีการระบาด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจ ATK ผลบวกแนวโน้มลดลง
ขณะที่การตรวจด้วย ATK เดิมการตรวจในกทม.หลายจุดมีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อค่อนข้างสูงเกิน 10% แต่ระยะหลังเริ่มพบแนวโน้มลดลงเริ่มเป็นสัญญานที่ดี อย่างไรก็ตาม ต้องมีมาตรการนการดำเนินการและเฝ้าระวัง แนวโน้มการติดเชื้อเหมือนชะลอตัว แต่ยังมีตัวเลขสูงต้องมีการดำเนินงานมาตรการต่างๆ อย่างใกล้ชิด
- ฉีดวัคซีนไปมากกว่า 30 ล้านโดส
การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวันที่ 27 ส.ค. 64 ฉีดเพิ่ม 915,738 โดส ทำให้ขณะนี้ ฉีดไปแล้ว 30,420,507 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 สะสม 22,617,701 ราย เข็มที่ 2 สะสม 7,221,368 ราย และเข็มที่ 3 สะสม 581,438 ราย
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อไปว่า จะเห็นว่าแนวโน้มการฉีดวัคซีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในเดือน ส.ค. เนื่องจากมีวัคซีนมามากขึ้น เป็นไปตามแผน ซึ่งแผนที่เริ่มตั้งแต่ มิ.ย. มีแผนฉีดให้ได้เดือนละ 10 ล้านโดส ตอนนี้ถือว่าเดือน ส.ค. ทำได้เกินเป้าหมายแต่มีพี่น้องจำนวนมากที่ยังไม่ได้ฉีด ต้องมีการนำวัคซีนเข้ามาและเร่งรัดการฉีดต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่หากป่วยจะมีอาการรุนแรง เป็นต้น
- เร่งฉีด กลุ่ม 608
สำหรับจำนวนการรับวัคซีน แยกตามกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่วันที ่28 ก.พ. - 27 ส.ค. 64 พบว่า กลุ่มสูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดอย่างน้อย 1 เข็ม 43.1% ฉีดเข็มที่ 2 สัดส่วน 6.5% และอีกกลุ่มที่เป็นกลุ่มเป้าหมายคือหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งฉีดอย่างน้อย 1 เข็ม 6.9% และฉีดเข็ม 2 เพียง 0.7%
"ขอเชิญชวนหญิงตั้งครรภ์ที่ฝากท้องกับ รพ.ต่างๆ ขอรับการฉีดวัคซีนได้ที่ รพ.ที่ฝากท้อง ย้ำว่า ตอนนี้ฉีดวัคซีนไป 30 กว่าล้านโดส ไม่มีรายได้ที่เสียชีวิตจากวัคซีนโดยตรง จากการประเมินข้อมูล ชันสูตรในรายเสียชีวิตจากผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้น วัคซีนมีความปลอดภัย สอดคล้องกับทั่วโลกที่มีการฉีดวัคซีนไปหลายพันล้านโดส ข้อมูลตรงกันว่ามีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ได้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ของ WHO ขอให้กลุ่มเสี่ยงต่างๆ ไปฉีดวัคซีนตามกำหนดและตามนัดหมาย" อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
- แผนจัดหาวัคซีน
สำหรับแผนจัดหาวัคซีนของไทย 2564 ในเดือน ส.ค. ทั้งซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ วัคซีนทั้ง 3 ชนิด สามารถนำเข้ามา 13.8 ล้านโดส แบ่งเป็น ซิโนแวค 6.5 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 5.8 ล้านโดส ไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส นอกจากนี้ ยังมีของ ซิโนฟาร์ม ที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นำเข้ามา 5 ล้านโดส ทำให้ยอดการฉีดวัคซีนในเดือน ส.ค. ค่อนข้างสูง
สำหรับประมาณการจัดหาวัคซีนในเดือน ก.ย. – ธ.ค. 64 เพื่อให้ได้กำหนดตามแผนเดิมที่จะฉีดวัคซีน 100 ล้านโดสในปี 2564 เพื่อครอบคลุมประชากรอย่างน้อย 50% ดังนั้น ประมาณการการจัดหาวัคซีน ดังนี้
ในเดือน ก.ย. ซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 7.3 ล้านโส ไฟเซอร์ 2 ล้านโดส รวม 15.3 ล้านโดส
ในเดือน ต.ค. ซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 10 ล้านโดส ไฟเซอร์ 8 ล้านโดส รวม 24 ล้านโดส
ในเดือน พ.ย. แอสตร้าเซนเนก้า 13 ล้านโดส ไฟเซอร์ 10 ล้านโดส รวม 23 ล้าน
ในเดือน ธ.ค. แอสตร้าเซนเนก้า 13 ล้านโดส ไฟเซอร์ 10 ล้านโดส รวม 23 ล้าน
รวมการจัดหาวัคซีน 3 ยี่ห้อ ถึงสิ้น ธ.ค. จำนวน 124 ล้านโดส ขณะที่ศักยภาพการฉีดที่มียอดการฉีดมากกว่า 6 แสนโดสต่อวัน คาดว่าจะฉีดได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ขอเชิญพี่น้องประชาชน ที่ได้รับการแจ้งข้อมูลข่าวสาร ขอให้ไปฉีดวัคซีนตามกำหนด
นอกจากนี้ยังมีข่าวดี คือ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มีการนำเข้า ซิโนฟาร์ม เรื่อยๆ ทำให้ยอดการฉีดเพิ่มเติมขึ้นไป รวมถึง องค์การเภสัขกรรม อภ. ร่วมกับ รพ.เอกชนหลายแห่ง ที่จะนำเข้าโมเดอร์นา คาดว่าจะมาไตรมาส 4/2564 ประมาณการตามแผนจะได้วัคซีนเกิน 100 ล้านโดส
- ภูมิคุ้มกันหมู่ มาจากหลายปัจจัย
สำหรับ ภูมิคุ้มกันหมู่ จะกี่เปอร์เซ็นต์ขึ้นกับหลายปัจจัย อย่างแรก คือ เชื้อโรค มีการแพร่กระจายได้เร็วมากแค่ไหน เชื้อโรคแต่ละตัวก็จะมีวัคซีนที่จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่แตกต่างกัน แม้กระทั้ง เชื้อเดียวกัน เช่น โควิด-19 มีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา หากจำกันได้ ในช่วงแรกที่มีการระบาดสายพันธุ์ดั้งเดิม การระบาดไม่รวดเร็วนัก แต่พอกลายพันธุ์เป็นเดลตา ทำให้การแพร่กระจายเร็วมากขึ้น การคิดเปอร์เซ็นภูมิคุ้มกันหมู่ ก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามไวรัสที่กลายพันธุ์
ถัดมา คือ ขึ้นอยู่กับการแพร่ระบาดในพื้นที่นั้นๆ ว่ามีการแพร่ระบาดมากน้อยแค่ไหน หรือความสามารถการระบาดของโรค มากน้อยแค่ไหน ดังนั้น ค่าภูมิคุ้มกันหมู่ มีความผันแปรไปแต่ละที่ และแต่ละเวลา รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่ติดเชื้อโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
"เดิมแผนที่วางไว้ในการฉีดวัคซีนมีแผนจะฉีดกับพี่น้องประชาชนอย่างน้อย 70% หรือราว 50 ล้านคน อย่างไรก็ตาม โดยนโยบายทางรัฐบาล หากพี่น้องคนไทย รวมถึงคนที่อยู่บนแผ่นดินไทย ต้องการฉีดวัคซีน รัฐบาลก็จะจัดหาวัคซีนมาให้กับทุกคนโดยสมัครใจ หากดูตัวเลข จริงๆ แล้วถึงสิ้นเดือน ธ.ค. แผนการจัดหาวัคซีนรวมทั้งหมดจะอยู่ที่ 140 ล้านโดส เราสามารถฉีดให้กับทุกคนในแผ่นดินไทย หากทุกคนร่วมมือร่วมใจกันฉีดได้เกินเป้าหมายแน่นอน" อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว