ค้าปลีก ศูนย์การค้า ลั่น 1 ก.ย. พร้อม 100% เดินหน้าเปิดเมืองแบบปลอดภัย
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย และสมาคมศูนย์การค้าไทย ผนึกกำลังเดินหน้าเปิดเมือง "เปิดห้างอย่างปลอดภัย" ยกระดับมาตรการป้องกันโควิดขั้นสูงสุด มั่นใจไม่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และต้องกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง
จากการประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2564 มีมติเห็นชอบปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรและมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด – 19 ในจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด (พื้นที่สีแดงเข้ม) ให้ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านค้า และร้านอาหาร
เปิดให้บริการได้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และ นายนพพร วิฑูรชาติ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย ร่วมกันเปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้หารือร่วมกับภาคีเครือข่าย ในการเดินหน้าเปิดธุรกิจอย่างปลอดภัย และยกระดับมาตรการป้องกันและคัดกรองขั้นสูงสุด เพื่อเป็นการช่วยฟื้นฟูธุรกิจของผู้ประกอบการและร้านค้า ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ ให้กลับมามีรายได้ และช่วยพยุงการจ้างงานของแรงงานในระบบค้าปลีกและบริการ
ทั้ง 2 สมาคมฯ มีความเชื่อมั่นว่าทางรอดของเศรษฐกิจไทย คือ การกลับมาเปิดธุรกิจอย่างปลอดภัย พร้อมการรองรับของระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง ผนึกกับการร่วมมือของทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ผู้ประกอบการ ร้านค้า และประชาชน ที่ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดและทำให้เกิดขึ้นได้จริงจะช่วยให้การเปิดเมือง เปิดห้างในครั้งนี้ ไม่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และต้องกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง
“เราเริ่มเห็นสัญญาณบวกจากการที่รัฐบาลสามารถนำวัคซีนเข้ามาได้ในปริมาณที่มากขึ้นและเพียงพอ มีการจัดหา ATK (Antigen Test Kit) เพื่อเป็นการคัดกรองผู้ติดเชื้อได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น ทั้งยังเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดหาและการกระจายวัคซีน มีการจัดระเบียบให้ประชาชนและชุมชนดูแลกันเอง รวมกับการติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนที่ลดลง และจำนวนของผู้หายป่วยมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง ประชาชนทุกคนมีความรับผิดชอบในตนเองและสังคม ทำให้มีการเปิดเมือง และ เปิดห้างได้อย่างปลอดภัย ปัจจัยทั้งหมดนี้จะเป็นความหวังที่ทำให้ประเทศไทยกลับมาฟื้นตัว และทุกคนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อีกครั้ง” นายญนน์ กล่าวเสริม
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย และ สมาคมศูนย์การค้าไทย ได้ดำเนินการตามเกณฑ์และเงื่อนไขในการปฏิบัติเข้มข้นขั้นสูงสุด โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามมาตรการของ ศบค. ดังต่อไปนี้
1. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ สามารถเปิดดำเนินการได้ทุกแผนก และปิดบริการเวลา 20.00 น.
2. ห้ามจัดกิจกรรมมากกว่า 25 คน
3. ร้านอาหาร เปิดได้ตามเงื่อนไข ดังนี้
3.1 ร้านอาหารที่อยู่นอกอาคาร หรือในอาคารแต่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ มีลักษณะโล่ง และอากาศถ่ายเทได้ดี ให้นั่งรับประทานได้ 75% ของจำนวนที่นั่งปกติ
3.2 ร้านอาหารที่เป็นห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ให้นั่งรับประทานได้ 50% ของจำนวนที่นั่งปกติ
3.3 งดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน
4. ร้านเสริมสวย เปิดให้บริการไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อคน ต้องมีการนัดหมายก่อนเข้าใช้บริการ
5. ร้านนวด เปิดได้เฉพาะนวดเท้า
6. คลินิกเสริมความงาม เปิดจำหน่ายสินค้าเท่านั้น (ตามมาตรการของ ศบค.)
7. กลุ่มธุรกิจที่ยังไม่เปิดให้บริการ มีดังนี้
7.1 สถาบันกวดวิชา
7.2 โรงภาพยนตร์
7.3 สปา
7.4 สวนสนุก สวนน้ำ
7.5 ฟิตเนส ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ
7.6 ห้องประชุมจัดเลี้ยง
8. ผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ ต้องดำเนินการตามมาตรการการป้องกันโรค D-M-H-T-T ของ
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารสุข และประเมินตนเองผ่าน Thai Stop Covid Plus รวมทั้งคัดกรอง ผู้ให้บริการผ่าน Platform Thai Safe Thai ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และต้องปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
9. สำหรับการเปิดห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ รวมถึงร้านค้าในศูนย์การค้าฯ ต่างๆ ในวันที่ 1 กันยายนนี้ ขอให้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ประกอบการ และร้านค้าแต่ละรายเป็นหลัก
10. หากมีประกาศของจังหวัดอื่นใด นอกเหนือจากนี้ให้ปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดนั้นๆ
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย และ สมาคมศูนย์การค้าไทย ยืนยันที่จะปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐ และ ศบค. อย่างเต็มกำลัง เพื่อการเปิดเมือง เปิดห้างอย่างปลอดภัย และร่วมผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวผ่านวิกฤตโควิดครั้งนี้ไปให้ได้