เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ยืนยัน 'แก๊งค์ปาร์ตี้หมูกระทะ' สึกจากพระแล้ว
พระราชรัชมุนี เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ยืนยันพระสงฆ์ 7 รูป ก๊วนเจ้าอาวาสปาร์ตี้หมูกระทะ-เบียร์ ลาสิกขาแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมา เผยในทางสงฆ์ถือว่าจบแล้ว ส่วนทางโลกขึ้นอยู่กับสำนักพุทธศาสนาไปดำเนินการต่อ
วันที่ 31 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมืองเชียงใหม่ ได้มีการจับกุมกลุ่มพระสงฆ์ที่รวมตัวกันกินหมูกระทะและดื่มเบียร์ ภายในวัดปันเสา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมีการจับกุมพระสงฆ์จำนวน 7 รูป โดย 4 ใน 7 รูป เป็นถึงระดับเจ้าอาวาสวัดในตัวเมืองเชียงใหม่ และจับฆราวาส 1 คน และศาลแขวงเชียงใหม่มีคำตัดสินไปแล้ว
ล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าพระสงฆ์ทั้ง 7 รูป ประกอบด้วย
1.พระครูปลัดสุรเดช สายแผ่เยือง อายุ 34 ปี เจ้าอาวาสวัดยางกวง ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่
2.พระครูมนูญธรรมศาสถ์พุทธกร วิมุติญาณกุง อายุ 41 ปี เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่
3.พระอธิษฐณัฏฐ์ ปัญญาอินแก้ว อายุ 34 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านปิง ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่
4.พระภานุกร คำป็อก อายุ 42 ปี เจ้าอาวาสวัดปันเสา
5.พระใบฏีกายนนนท์ ปัญญาปโตยานนท์ประทุม อายุ 35 ปี
6.พระทักษิณ ศรีธิ อายุ 36 ปี พระลูกวัดปันเสา
7.พระสหการ สมศักดิ์ อายุ 25 ปี
ได้มีการยื่นหนังสือสมัครลาสิกขาบท หรือสึกออกจากการเป็นพระถึงเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ และได้ทำการสึกที่วัดอุปคุต ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
พระราชรัชมุนี เจ้าอาวาสวัดสวนดอก พระอารามหลวง เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือลาสิกขาของพระทั้งหมดแล้ว ทางสงฆ์ถือว่าเสร็จสิ้นแล้วไม่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพราะทั้งหมดถือว่าขาดจากการเป็นพระ ส่วนเรื่องการแต่งตั้งเจ้าอาวาสมาแทน เป็นหน้าที่ของเจ้าคณะตำบลนั้นเป็นผู้แต่งตั้ง และมีการแต่งตั้งรักษาการไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน
ส่วนทางโลกตามที่ติดตามข่าวตำรวจได้มีการดำเนินคดีแล้ว ส่วนกรณีที่ว่าจะมีการดำเนินคดี ในส่วนของการทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย เป็นหน้าที่ของสักนักพุทธฯ ดำเนินการต่อ
ส่วนของพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นการผิดวินัยโลกวัชชะหรือโลกติเตียน ไม่เข้าขั้นผิดวินัยร้ายแรงอาบัติปาราชิก 4 ข้อที่ต้องขาดจากการเป็นพระ เพียงแค่ปรงอาบัติหรือภาวนาตน ถือว่าเสร็จสิ้นแล้วสามารถเป็นพระต่อได้
อย่างไรก็ตาม ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง และได้มีการกำชับไปเจ้าคณะตำบลทุกตำบล ให้เข้มงวดกวดขันห้ามไม่ให้พระทุกรูปมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพราะผิดวินัยสงฆ์ และเป็นการทำลายพระพุทธศาสนา