'บาร์บีคิวพลาซ่า' เดินหน้าฟื้นยอดขาย
สแกนธุรกิจร้านอาหารหลังคลายล็อกดาวน์ ผู้บริโภคตบเท้าใช้บริการแบรนด์ดัง “ฟู้ดแพชชั่น” เผย 'บาร์บีคิว พลาซ่า' คึกคัก ยอดกลับมา 80-90% ทำเลกลางกรุงยังหงอย นอกเมืองฮอต จับตาบุฟเฟต์นั่งทานได้ 1 ชั่วโมง ร้านต้องปรับกลยุทธ์ตอบความ “คุ้มค่า” ทานไม่อั้น
บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการสร้างโอกาสทางการตลาด กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ผู้บริหารร้านบาร์บีคิว พลาซ่า จุ่มแซ่บฮัท ฌานา และหมูทอดกอดคอฯ ฉายภาพว่า หลังรัฐคลายลอกดาวน์ธุรกิจร้านอาหาร อนุญาตให้เปิดบริการกลับมานั่งทานในร้านหรือไดอินได้อีกครั้ง ผู้บริโภคกลับมารับประทานอาหารนอกบ้านทันที ตบเท้าเข้ามาใช้บริการแบรนด์ชั้นนำของบริษัทเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปิ้งย่าง “บาร์บีคิว พลาซ่า” ซึ่งพบยอดขายกลับมาราว 80-90% เทียบตอนก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาด
แม้รัฐจะเคาะคลายล็อกดาวน์ แต่การเปิดร้านอาหารให้บริการแก่ลูกค้าทำได้ราว 90% ยังไม่ครบทุกสาขา เช่น บาร์บีคิว พลาซ่า เปิด 132 สาขา จากทั้งหมด 144 สาขา ร้านโภชา และร้านฌานา เปิดวันที่ 4 กันยายนนี้ และร้านฌานาอีก 1 สาขา ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์จะปิดตัว 1 ด้วย ร้านอาหารเกาหลีเรดซัน เปิดให้บริการทั้ง 15 สาขา เป็นต้น
ทั้งนี้ ร้านที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก นอกจากเป็นแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่า ยังพบว่าร้านที่อยู่นอกเมือง ได้รับความนิยมอย่างมาก ขณะที่ร้านในทำเลทอง เช่น ย่านใจกลางกรุงเทพฯ ทั้งสยามสแควร์ และย่านอาคารสำนักงานต่างๆ กลับมีลูกค้ามาใช้บริการน้อย
สำหรับมาตรการดูแลความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของพนักงานเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ทางร้านปฏิบัติตามข้อกำหนดรัฐทุกประการ ทั้งการตรวจโควิดให้พนักงานด้วย ชุด ATK ซึ่งยอมรับว่ามีผลต่อต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น การทำความสะอาดร้าน การชำระเงินต่างๆ และการมีฉากกั้นบริเวณโต๊ะนั่งรับประทานอาหาร เป็นต้น
“จากการสำรวจร้านวันแรกที่ให้บริการ ยอดขายกลับมาเกือบ 90% และคาดว่าจากนี้ไปลูกค้าจะออกมาใช้บริการมากขึ้น หากตัวเลขผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับสูงหลักหมื่นต้นๆ เชื่อว่าผู้บริโภคจะกลับมาทานอาหารนอกบ้าน ขณะที่ยอดไดอินหรือลูกค้านั่งทานในร้านกลับมา ส่วนยอดเดลิเวอรี่ชะลอตัวเล็กน้อย อยู่ในสัดส่วน 15% บริษัทจึงขอเวลา 2 เดือนเพื่อประเมินสถานการณ์ตลาดว่าจะอยู่ในทิศทางใด เพราะปัจจุบันผู้บริโภคสามารถรับประทานปิ้งย่างบาร์บีคิวพลาซ่าได้ที่บ้านมีบริการเตาพร้อม กะทะไม่ต้องล้าง”
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องจับตา คือตัวเลขผู้ติดเชื้อ รวมถึงมาตรการรัฐจะมีอะไรออกมาอีก จากที่ผ่านมาร้านอาหารเปิดปิดไดรับผลกระทบต่อเนื่อง โดยเฉพาะครั้งล่าสุดห้ามนั่งทานในร้านเป็นการ “ชัตดาวน์” ธุรกิจหลัก เพราะครัวกลาง สาขาอยู่ในห้างค้าปลีกเกือบทั้งหมด ขณะเดียวกันต้องติดตามาตรการให้ร้านบุฟเฟต์รับลูกค้านั่งทานเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น จากปกติอยู่ที่ 1.30-2 ชั่วโมง ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อการใช้บริการของลูกค้าอย่างแน่นอน แบรนด์จึงต้องปรับกลยุทธ์ อาจเป็นเรื่อง “ราคา” เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกยังคุ้มค่า
“บุฟเฟต์ปกตินั่งทานได้ 1.30-2 ชั่วโมง หากลดเวลานั่งทาน แบรนด์ต้องปรับกลยุทธ์ โดยเฉพาะเรื่องราคามีผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าอย่างมาก”
ธุรกิจร้านอาหารยังเผชิญวิกฤติโรคระบาด การปรับตัวต้องทำต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทจับมือกับเอไอเอส เปิดร้านบาร์บีคิว พลาซ่า เวอร์ชวล เรสเทอรองต์แห่งแรกของโลกผ่านห้างทิพย์ “V-AVENUE powered by AIS 5G” หวังขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่ม 50% เนื่องจากเอไอเอสมีฐานผู้ใช้งานมากถึง 43.72 ล้านเลขหมาย
เร็วๆนี้บริษัทจะผนึกพันธมิตรผู้ผลิตอาหารเพื่อขยายตลาดเพิ่มด้วย จากแผนงานดังกล่าว
ต้องการผลักดันยอดขายให้เติบโตทรงตัวเท่ากับปีก่อนที่ 3,500 ล้านบาท ซึ่งค่อนข้างยาก แต่จะพยายามรักษาบรรทัดสุดท้ายให้มี “กำไร” เพื่อดูแลพนักงาน ทั้งการขึ้นเงินเดือน การจ่ายโบนัส และคืนเงินที่เคยให้หยุดงานโดยไม่ต้องทำงานหรือลิฟ วิทเอาท์ เปย์