ปรับแผนค้นหา น้องจีน่า สั่งถางไร่ข้าวโพด-นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจ
รองผู้การฯ เชียงใหม่ ปรับแผนค้นหา "น้องจีน่า" หลังปูพรมหามา 2 วันแต่ยังไม่พบตัว สั่งถางไร่ข้าวโพด 3 ไร่ -นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจ ชี้ได้เบาะแสเพิ่ม เร่งแกะรอยประเด็นลักพาตัว พร้อมเรียกรถ 3 คันกลับเข้ามาที่หมู่บ้านให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหาหลักฐาน
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการหายตัวไปของน้องจีน่า วัย 1 ขวบ 11 เดือน ที่หายตัไปจากบ้านในพื้นที่บ้านห้วยฝักดาบ ม.19 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 5 ก.ย. 64 เวลาผ่านไปกว่า 2 วันแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่พบตัว และได้มุ่งประเด็นการหายตัวไว้ 3 ประเด็นคือ 1.ลักพาตัว 2.อุบัติเหตุ และ 3.พลัดหลงเข้าไปในป่า
ล่าสุด พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางมาประชุมวางแผนการค้นหาน้องจีน่าร่วมกับ ตัวแทนจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและ ตชด. รวมถึงฝ่ายปกครอง เพื่อปรับแผนการค้นหา
พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ กล่าวว่า ในวันนี้จะมีการประบแผนการค้นหา โดยจะขอให้ชาวบ้านช่วยกันตัดถางไร่ข้าวโพดพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ ด้านทิศตะวันออกห่างจากบ้านของน้องจีน่าราว 1 กิโลเมตร เพื่อเคลียร์ประเด็นการพลัดหลง เนื่องจากบริเวณไร่ข้าวโพดจะเป็นจุดที่คาดว่าเด็กวัยเกือบสองขวบจะไปได้ไม่เกินกว่านี้ โดยต้นข้าวโพดที่เสียหายทาง ปภ.จังหวัดจะเสนอขอจ่ายเงินชดเชยให้
นอกจากนี้เฮลิคอปเตอร์จากกองบินตำรวจ ได้เข้าสนับสนุนขึ้นบินสำรวจทางอากาศเน้นพื้นที่ป่าบนดอยที่โอบล้อมหมู่บ้าน โดยเฉพาะด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้านที่เมื่อคืนที่ผ่านมามีชาวบ้านพบเห็นแสงไฟและกลุ่มควัน โดยจะบินตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีความเกี่ยวข้องกับประเด็นลักพาตัวหรือไม่
ส่วนในการสืบสวนในวันนี้ชุดสืบสวน สภ.แม่แตง และสืบสวนภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จะเข้าพื้นที่หมู่บ้านเพื่อหาข้อมูลเบาะแสจากชาวบ้านและครอบคนครัวของน้องจีน่าเพิ่มเติม ส่วนนายเสี่ยว หรือ นายอาผะ อายุประมาณ 45 ปี ที่ครอบครัวของน้องจีน่าสงสัยว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง เมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีการสอบสวนนานหลายชั่วโมง ซึ่งนายอาผะยืนยันปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่การให้ปากคำยังมีบางส่วนที่ยังมีข้อสงสัย ซึ่งในส่วนนี้จะมีการสอบสวนเพิ่มเติมทันที เนื่องจากขณะนี้นายอาผะอยู่ในการควบคุมของตำรวจ สภ.แม่แตง หลังถูกจับกุมในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง
ส่วนรถยนต์ต้องสงสัยขณะนี้พบและติดต่อได้แล้วทั้งหมด 3 คัน โดยได้แจ้งให้กลับเข้ามาที่หมู่บ้านเพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาหลักฐาน ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดที่พบสองจุดไม่ให้เบาะแสอะไรมากนัก อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม