"ฝ่ายค้าน" รอเก้อ หลัง "สุชาติ" สั่งปิดประชุม หลังรอองค์ประชุมแค่5นาที
หลังสภาฯ อภิปรายวาระแรกของการแก้ไขป.อาญา ปรับเกณฑ์อายุรับโทษจบ ที่ประชุมเตรียมโหวต แต่องค์ประชุมมีบางตา "สุชาติ" จึงไม่รอสั่งปิดประชุม ฝ่ายค้าน รอเก้อ ทั้งที่เตรียมอภิปรายร่างกม.ยกเลิกคำสั่งคสช.
เมื่อเวลา 18.30 น. ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เป็นประธาน ได้พิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ. ) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่...) พ.ศ.... ซึ่งคณะรัฐมนตรีเสนอ ในวาระรับหลักการ
ทั้งนี้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นำเสนอรายละเอียดของร่างกฎหมาย ว่า ได้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา โดยปรับเพิ่มเกรฑ์อายุขั้นต่ำที่จะรบโทษทางอาญา จากเดิมที่กำหนด10 ปี เป็น 12 ปี โดยแก้ไขจำนวน 2 มาตรา คือ มาตรา 73 วรรคแรก ที่กำหนดว่า เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี หากกระทำความผิดตามกฎหมายไม่ต้องรับโทษ และ แก้ไขมาตรา 74 วรรคแรก กำหนดว่า เด็กอายุกว่า 12 ปี แต่ไม่ถึง 15 ปี หากกระทำผิดตามกฎหมายบัญญัติไม่ต้องรับโทษ
นายสมศักดิ์ ชี้แจงถึงเหตุผลด้วยว่า ทางการเพทย์ระบุว่า เด็ก อายุ 7 -12 ปี ยังพัฒนาความคิด สติปัญญาและจริยธรรมไม่สมบูรณ์ ขาดความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ไม่สามารถคาดการณ์ผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตนได้ นอกจากนั้น การวิจัยศึกษาที่เกี่ยวกับการกระทำของเด็กพบว่า เด็กที่อายุน้อย เมื่อกระทำผิด มีแนวโน้มจะกระทำผิดซ้ำ และเป็นนิสัย หากนำเข้ากระบวนการยุติธรรมก่อนวัยอันควรมีผลเสียต่อการกลับมาใช้ชีวิตปกติ นอกจากนั้นพบว่า สถิติเด็กอายุ 7 - 12 ปี กระทำผิดมีแนวโน้มลดลง และที่สำคัญ คือ เพื่อแก้ไขให้สอดคล้องกับมาตรฐานของรัฐธรรมนูญ และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กและกติการะหว่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการอภิปรายก่อนรับหลักการนั้นมีข้อทักท้วงต่อการแก้ไขกฎหมายที่ไม่ครบถ้วนกับข้อเสนอแนะของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ที่นอกจากปรับเกณฑ์อายุแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการกักขังหน่วงเหนี่ยวเด็ก อีกทั้งมองว่าการเสนอแก้ไขหลักเกณฑ์ดังกล่าว ไม่ควรตั้งกรรมาธิการฯ ให้ใช้สภาฯพิจารณาสามวาระรวด เนื่องจาก เนื้อหาของร่างกฎหมายไม่สามารถปรับแก้รายละเอียดได้ เพราะหลักการที่เสนอร่างกฎหมายนั้นกำหนดไว้แล้ว
หลังจากที่มีผู้อภิปรายจนครบถ้วน นายสุชาติ ได้เรียกส.ส.เข้าห้องประชุมเพื่อนับองค์ประชุมและลงมติ แต่พบว่า ต้องใช้เวลารอสมาชิก กว่า 5 นาที ทำให้นายสุชาติกล่าวว่า "ประธานไม่รอแล้วครับ ขอปิดประชุม”
ทำให้สภาฯ ต้องค้างการลงมติดังกล่าว และไม่สามารถ พิจารณา ร่างพ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2560 ซึ่งพรรคเพื่อไทยขอเลื่อนให้มาพิจารณาเป็นลำดับถัดไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ของสภาฯ วันนี้ (8 กันยายน) เป็นที่สังเกตว่า การนับองค์และลงมติแต่ละครั้งนั้น มีส.ส.เข้าร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุม ที่เกินกว่าองค์ประะชุม จำนวน 240 คน ไปเพียง 15 - 20 เสียง และทำให้ผลการลงมติผ่านไปได้อย่างเฉียดฉิว
ทั้งนี้ก่อนหน้านั้นนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ฐานะวิปฝ่ายค้าน กล่าวกับที่ประะชุมว่า “ขอให้ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ทำหน้าที่รักษาองค์ประชุมด้วย เพราะขณะนี้ฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่รักษาองค์ประชุมให้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นอาจกระทบการทำงานได้”.