ราชกิจจาฯ ประกาศขยาย "ล็อกดาวน์" คงเวลาเคอร์ฟิว 3 ทุ่ม ถึง ตี 4

ราชกิจจาฯ ประกาศขยาย "ล็อกดาวน์" คงเวลาเคอร์ฟิว 3 ทุ่ม ถึง ตี 4

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศขยายกำหนดใช้มาตรการ "ล็อกดาวน์" คุมสถานการณ์โควิด-19 คงเวลา "เคอร์ฟิว" ใน 29 จังหวัดสีแดงเข้ม ห้ามออกนอกเคหสถานระหว่าง 21.00-04.00 น. มีผลถึง 30 ก.ย.64

วันที่ 11 ก.ย.64 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 33)

มีใจความว่า 

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นคราวที่ 13 จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564 นั้น

เพื่อเป็นการบังคับใช้บรรดามาตรการตามข้อกำหนดที่ได้ประกาศไว้แล้วต่อเนื่องไปให้เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่รัฐบาลและพนักงานเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนสามารถเข้าควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินให้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ฝ่ายสาธารณสุขและหน่วยงานที่รับผิดชอบจึงได้ประเมินผลและความเหมาะสมของมาตรการต่าง ๆ เสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) (ศบค.) เพื่อพิจารณา โดยพนักงานเจ้าหน้าที่คงจำเป็นต้องติดตามกำกับดูแลทั้งบุคคล สถานที่ การดำเนินกิจการและกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ภายใต้เงื่อนไขของการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด การดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามแผนบริการวัคชีน รวมทั้งการสร้างความรับรู้และความเข้าใจให้ประชาชน ผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่รับผิดชอบเตรียมความพร้อมเพื่อการปฏิบัติตนสำหรับการดำเนินการตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคในระยะยาว 

อ่านข่าว : ล็อกดาวน์ชุมชนชาวเลราไวย์ 14 วัน หลังพบผู้ติดเชื้อกว่า 100 คน

เช่น มาตรการควบคุมโรคโควิด - 19 แนวใหม่เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างปลอดภัย (Smart Control and Living with COVID - 19) มาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention for COVID - 19) หรือมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID-Free  Setting) ที่จะบังคับใช้ในอนาคตอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และมาตรา 11  แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลายตามคำแนะนำของ ศบค. ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 การกำหนดพื้นที่สถานการณ์จำแนกตามเขตพื้นที่จังหวัดให้การกำหนดระดับของพื้นที่สถานการณ์เพื่อการบังคับใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ จำแนกเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด และพื้นที่ควบคุม ตามบัญชีรายชื่อจังหวัดแนบท้ายคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 11/2564  ลงวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2564 ยังคงบังคับใช้ต่อไป

ข้อ 2 การขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อการควบคุมสถาการณ์ของการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดตามการประเมินของฝ่ายสาธารณสุข จึงให้บรรดามาตรการ  ข้อห้าม ข้อยกเว้น และข้อปฏิบัติสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตามที่กำหนดที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้า ได้แก่ การห้ามออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 21.00 นาฬิกา ถึง 04.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น การห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพรโรค มาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การใช้เส้นทางคมนาคมเพื่อการเดินทางข้ามจังหวัด การขนส่งสาธารณะ และการปฏิบัติงานนอกสถานที่ทำการของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐและเอกชนอย่างเต็มความสามารถที่จะทำได้ 

รวมถึงบรรดามาตรการ หลักเกณฑ์ หรือแนวปฏิบัติสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่พนักงานเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบได้กำหนดขึ้นภายใต้ข้อกำหนดดังกล่าวยังคงใช้บังคับต่อไป  จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2564 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน พ.ศ.2564 เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 10 กันยายน พ.ศ.2564

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นายกรัฐมนตรี

ราชกิจจานุเบกษา ขยายล็อกดาวน์ ราชกิจจานุเบกษา ขยายล็อกดาวน์

ที่มา : ราชกิจจานุเบกษา