พรรคปัดเศษสูญพันธุ์! "ไพบูลย์" ชูโมเดลเลือกตั้ง จ่อชงก.ม.ลูก

พรรคปัดเศษสูญพันธุ์! "ไพบูลย์" ชูโมเดลเลือกตั้ง จ่อชงก.ม.ลูก

"ไพบูลย์" กางโมเดลเลือกตั้ง ปัดฝุ่นโมเดล"ยุคอภิสิทธิ์" จ่อชงพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.หลังรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ คาด "พรรคปัดเศษ" สูญพันธุ์!

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ระหว่างนี้ยังอยู่ในช่วง 15 วันก่อนที่จะนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายประกาศบังคับใช้ หรือหลังวันที่ 24 กันยายนนี้ ซึ่งกำลังยกร่างกฎหมาย 2 ฉบับ คือ ร่างแก้ไขเพิ่มเติมประกอบรัฐธรรมนูญ หรือ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะยื่นร่างต่อประธานรัฐสภา หลังจากประกาศบังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมแล้ว กับร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่จะยกร่างและเสนอต่อประธานรัฐสภาก่อน

พร้อมเปิดเผยว่าในการแก้ไขมาตรา 91 เรื่องการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้นำความมาจาก 98 ตามรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมปี 2554 ยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มายกร่าง ที่กำหนดว่า การคำนวณสัดส่วนผู้สมัครรับเลือกตั้งตามบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองที่จะได้รับเลือกตั้ง

 

นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ให้นำคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับเลือกตั้งมารวมกันทั้งประเทศ แล้วคำนวณเพื่อแบ่งจำนวนผู้ที่จะได้รับเลือกของแต่ละพรรคการเมือง เป็นสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรงกับจำนวนคะแนนรวมข้างต้น

โดยให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งซึ่งมีบัญชีรายชื่อในบัญชีของแต่ละพรรคการเมือง ได้รับเลือกตามเกณฑ์คะแนนที่คำนวณได้เรียงตามลำดับหมายเลขในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง 

 

พร้อมยกตัวอย่างหากคะแนนเสียงเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อของทุกพรรคการเมืองรวมกันมี 35 ล้านเสียง นำมาหารด้วยจำนวน ส.ส.ชัญชีรายชื่อ 100 คน จะได้คะแนนหารจำนวนสัดส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อแต่ละพรรค คือ 350,000 คะแนน คือได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน

หากพรรคใหม่คะแนน 7 แสนคะแนน ก็จะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2 คน หากหารจำนวน ส.ส.กับคะแนนของแต่ละพรรคการเมืองแล้วได้หารลงตัว 95 ส.ส. และเหลืออีก 5 คน ให้ดูพรรคที่ได้คะแนนไม่ถึง 350,000 คะแนน โดยไล่เรียงจากพรรคที่ได้สูงสุดลดหลั่นกันไป

ซึ่งวิธีคำนวณนี้ จะไม่มีพรรคใดได้ ส.ส.ปัดเศษ