กรมราชทัณฑ์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 163 ราย เสียชีวิต 1 ราย
"กรมราชทัณฑ์" พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 163 ราย เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำกลางนครสวรรค์ เป็นกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัว ส่วนเรือนจำจังหวัดสุโขทัย พ้นจากการระบาดเพิ่ม
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 12 กันยายน 2564 เวลา 16.00 นาฬิกา) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 163 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 103 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 60 ราย) รักษาหายเพิ่ม 74 ราย เสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 5,714 ราย (กลุ่มสีเขียว 86.7% สีเหลือง 13% และสีแดง 0.3%) เป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 546 ราย (รวมทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์) ปริมณฑล 147 ราย และต่างจังหวัด 5,021 ราย
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ มีเรือนจำที่พ้นจากการระบาดเพิ่ม 1 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดสุโขทัย ส่งผลให้เรือนจำสีแดงลดลงอยู่ที่ 32 แห่ง และเรือนจำสีขาว 110 แห่ง โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 55,662 ราย หรือ 88.2% ของผู้ติดเชื้อสะสม 63,087ราย เสียชีวิตสะสม 133 ราย คิดเป็นอัตรา 0.2% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
สำหรับผู้เสียชีวิต เป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำกลางนครสวรรค์ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัว แม้ว่าได้ดูแลรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานโดยทีมแพทย์ และส่งต่อการรักษายังโรงพยาบาลภายนอกแล้ว แต่อาการยังคงไม่ดีขึ้น จนกระทั่งได้เสียชีวิตลง กรมราชทัณฑ์ ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไป มา ณ โอกาสนี้ ทั้งนี้ ได้ประสานญาติเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้แนวโน้มของผู้ติดเชื้อรายใหม่จากเรือนจำแพร่ระบาดเริ่มชะลอตัวลงในระยะนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องเคร่งครัดมาตรการในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่จากภายนอก และการตรวจหาเชื้อในเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าปฏิบัติงานในเรือนจำที่ยังไม่มีการแพร่ระบาด รวมทั้งการระมัดระวังตนเอง ไม่เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง การเว้นระยะห่างระหว่างกัน การสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องตลอดเวลา และการหมั่นล้างมือ/ฆ่าเชื้ออยู่เสมอ รวมถึงการรักษามาตรฐานในการดูแลรักษาผู้ต้องขังในเรือนจำที่พบการระบาดแล้ว ที่ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว และถูกต้องตามมาตรฐานทางการแพทย์
สำหรับการบริหารจัดการวัคซีนแก่ผู้ต้องขัง ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังที่ได้รับวัคซีนแล้ว จำนวน 118,091 โดส เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 68,637 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 49,454 ราย ซึ่งเป็นวัคซีนจากกรมควบคุมโรค วัคซีนพระราชทาน และจากโรงพยาบาลแม่ขาย/สำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอการจัดสรรจากกรมควบคุมโรคเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการฉีดแก่ผู้ต้องขังที่เหลืออีกกว่า 2 แสนราย ซึ่งคาดว่าจะได้รับวัคซีนทั้งหมดภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์นี้เพื่อฉีดเป็นเข็มที่ 1 รวมทั้งเข็มที่ 2 ในระยะต่อไป โดยจะเริ่มทยอยฉีดได้ตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์นี้เป็นต้นไป จนกว่าจะครอบคลุมผู้ต้องขังทุกรายในที่สุด และในส่วนของผู้ต้องขังที่พ้นโทษภายหลังจากที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้ว สามารถติดต่อเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ตามกำหนดได้ที่โรงพยาบาลแม่ข่ายตามปกติ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เรือนจำหรือทัณฑสถานที่เคยถูกคุมขังอยู่