นอนคุก! ส่งตัว 3 ผู้ต้องหาขโมยปืนหลวงฝากขังต่อศาล จ.สระแก้ว

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 13 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ธวัชชัย ล่ามกิจจา รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาคดีขโมยปืนหลวง จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายวีระพันธ์ หรือ ตั้ม อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่ อส.ประจำที่ว่าการอำเภอเมืองสระแก้ว ,นายเล็ก อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่ อส.ทำงานอยู่ในศาลากลางจังหวัด และนายเอกชัย หรือเต๋า อายุ 40 ปี ชาวบ้านในอำเภอวัฒนานคร ซึ่งเป็นผู้รับซื้อปืน ลงมาจากห้องสอบสวนและห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา เพื่อนำไปขึ้นรถควบคุมตัวผู้ต้องหา บริเวณด้านหน้าสถานีตำรวจ เพื่อนำตัวไปร้องขอต่อศาลฝากขังผัดแรก หลังจากควบคุมตัวไว้เพื่อสอบสวนเป็นเวลา 48 ชม. โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5-6 นาย คอยดูแลความเรียบร้อย ซึ่งขณะนำรถส่งตัวผู้ต้องหาออกไปจากสถานีตำรวจ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยติดตามดูแลรักษาความปลอดภัยด้วย

ทั้งนี้่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีใหญ่อาจมีการหลบหนีได้ ศาลจังหวัดจังหวัดสระแก้ว จึงมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ภายหลังญาติได้ยื่นขอผู้ประกันตัวผู้ต้องหาแต่ไม่ได้รับการอนุญาต จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถคุมขัง เพื่อนำตัวส่งไปกักขังไว้ที่เรือนจำใน จ.ปราจีนบุรี เป็นการชั่วคราวก่อน เนื่องจากเรือนจำจังหวัดสระแก้วเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม สำหรับที่บริเวณ ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองสระแก้ว นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้เดินทางลงพื้นที่เร่งด่วน เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว ภายหลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตกเป็นข่าว และ อส.ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมดูแลอาวุธปืน กลายเป็นผู้กระทำผิด ขโมยปืนของทางราชการไปขายถึง 21 ครั้ง จำนวน 65 กระบอก ซึ่งนายชนาธิป โคกมณี นายอำเภอเมืองสระแก้ว ได้พาผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เข้าตรวจพื้นที่จุดต่าง ๆ ภายในอำเภอ โดยเฉพาะจุดที่มีการเก็บปืนของทางราชการ ซึ่งพบว่า ภายในที่ว่าการอำเภอเมืองสระแก้ว มีกล้องวงจรปิดถึง 5 ตัว ด้วยกัน เหตุใดจึงไม่มีใครทราบว่า มีการนำปืนออกไปจากที่ทำการอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วได้นั่งหารือกับนายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางมาตรการดูแลและแก้ไขปัญหานี้อย่างรัดกุมหลังจากนี้ด้วย