สรุป "น้ำท่วม" 29 จังหวัด เดือดร้อน 16,725 ครัวเรือน เสียชีวิต 2 ราย

สรุป "น้ำท่วม" 29 จังหวัด เดือดร้อน 16,725  ครัวเรือน เสียชีวิต 2 ราย

ปภ. รายงานสถานการณ์น้ำท่วม ใน 29 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 16,725 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ยังคงมีน้ำท่วมขังบางพื้นที่ เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 64 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานในช่วงวันที่ 7 - 17 ก.ย. 64 เกิดอุทกภัยใน 29 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี จันทบุรี ระยอง ตราด ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา นครนายก สมุทรปราการ ระนอง กระบี่ และตรัง รวม 110 อำเภอ 265 ตำบล 913 หมู่บ้าน 2 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 16,725  ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 2 ราย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 20 จังหวัด ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 9 จังหวัด ภาพรวมสถานการณ์หลายพื้นที่เริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ  ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป

อ่านข่าว-พยากรณ์อากาศวันนี้ ประเทศไทยฝนลดลง แต่ตกหนักบางแห่ง
 

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุม ทะเลอันดามันและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น และจากอิทธิพลพาย“โกนเซิน” ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย. 64 – ปัจจุบัน (17 ก.ย.64 เวลา 06.00 น.) ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ ในพื้นที่ 29 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี จันทบุรี ระยอง ตราด ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา นครนายก สมุทรปราการ ระนอง กระบี่ และตรัง รวม 110 อำเภอ 265 ตำบล 913 หมู่บ้าน 2 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 16,725  ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 2 ราย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 20 จังหวัด

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน  9 จังหวัดรวม 37 อำเภอ10 ตำบล/เทศบาลตำบล ได้แก่

1. เลย น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเลย และอำเภอวังสะพุง รวม 2 ตำบล ระดับน้ำลดลง

2. ตาก น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตาก อำเภอบ้านตาก และอำเภอแม่สอด รวม 7 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ4,208 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

3. พิษณุโลก น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพรหมพิราม อำเภอวังทอง และอำเภอเนินมะปราง รวม 10 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 234 ครัวเรือน ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อำเภอเนินมะปราง

4. กำแพงเพชร น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพรานกระต่าย อำเภอลานกระบือ และอำเภอเมืองกำแพงเพชร รวม 4 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 71 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

5. พิจิตร น้ำท่วมขังในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพิจิตร อำเภอวังทรายพูน อำเภอวชิรบารมี อำเภอสามง่าม อำเภอทับคล้อ อำเภอโพทะเล อำเภอโพธิ์ประทับช้าง อำเภอดงเจริญ อำเภอสากเหล็ก และอำเภอบึงนาราง รวม 35 ตำบล 190 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 688 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

6. ปราจีนบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกบินทร์บุรี และอำเภอศรีมหาโพธิ รวม 6 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 890 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลงเล็กน้อย

7. เพชรบูรณ์ เกิดน้ำไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก และอำเภอน้ำหนาว รวม 16 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,545 ครัวเรือนยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อ.หล่มสัก ระดับน้ำลดลง

8. พระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา และอำเภอบางบาล รวม 7 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 602 ครัวเรือน ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้น

9. นครราชสีมา น้ำท่วมขังในพื้นที่ 8  อำเภอ ได้แก่ อำเภอด่านขุนทด อำเภอสูงเนิน อำเภอโนนสูง อำเภอปักธงชัย อำเภอโนนไทย อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอพิมาย และอำเภอโชคชัย รวม 13 ตำบล / เทศบาลตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 499 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย
โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ สำหรับประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง