ชป. งัดแผนรับน้ำเข้าระบบ 2 ฝั่งเจ้าพระยา ลดผลกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำตอนล่าง

ชป. งัดแผนรับน้ำเข้าระบบ 2 ฝั่งเจ้าพระยา ลดผลกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำตอนล่าง

กรมชลประทาน งัดแผนใช้ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา รับน้ำเข้าระบบ หวังลดระดับน้ำที่ล้นตลิ่งในตอนล่าง ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำได้ พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด จนกว่าจะหมดฝน

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามความคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ประเทศไทยยังได้รับผลกระทบจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ซึ่งมีแนวโน้มจะทวีกำลังขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน ในช่วงระหว่างวันที่ 19-20 กันยายน 2564 นี้ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักบางแห่ง ในทุกภาคของประเทศไทย

ชป. งัดแผนรับน้ำเข้าระบบ 2 ฝั่งเจ้าพระยา ลดผลกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำตอนล่าง

 

ได้สั่งการให้ทุกโครงการชลประทาน และสำนักเครื่องจักรกล เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าประจำยังจุดเสี่ยงต่างๆ และตรวจสอบสภาพของอาคารชลประทานให้อยู่พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และหาแนวทางเก็บกักน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากนี้สำรองไว้ใช้ในฤดูแล้วหน้าต่อไป ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

อ่านข่าว : ระดับน้ำที่ อ.เสนา จ.อยุธยา เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ชป.เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำปิงบริเวณ จ.กำแพงเพชร ทำให้มีน้ำท่าไหลลงสู่แม่น้ำปิงมากขึ้น ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.นครสวรรค์ ส่งผลให้ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นในอัตรา 1,808 ลบ.ม./วินาที ต่ำกว่าตลิ่ง 4.14 เมตร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ก่อนจะไหลหลากลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ซึ่งมีการปรับการระบายน้ำเพิ่มขึ้นในเกณฑ์ 1,400 ลบ.ม./วินาที ทำให้พื้นที่ด้านท้ายเขื่อนระดับน้ำจะสูงขึ้นจากปัจจุบันเล็กน้อย

ชป. งัดแผนรับน้ำเข้าระบบ 2 ฝั่งเจ้าพระยา ลดผลกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำตอนล่าง

กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบของประชาชน ด้วยการจัดจราจรน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา โดยการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง(คลองชัยนาท-ป่าสัก , คลองชัยนาท-อยุธยา ,คลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง แม่น้ำท่าจีน และเเม่น้ำน้อย) ในอัตรารวมกัน 425 ลบ.ม./วินาที ส่วนด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ได้มีการรับน้ำเข้าแม่น้ำลพบุรี และคลองบางแก้ว ในอัตราที่เหมาะสม เพื่อลดผลกระทบของผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำน้อยและคลองโผงเผง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ ในเขต อ.เสนา อ.บางบาล อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา คาดว่าจะช่วยลดระดับน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งได้

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึง สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาว่า ปัจจุบัน(17 ก.ย. 64) 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 10,056 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 40 ของความจุอ่างฯ เป็นปริมาณน้ำใช้การได้ 3,360 ล้าน ลบ.ม. ยังสามารถรับน้ำได้อีก 14,815 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ ภาพรวมสถานการณ์น้ำยังอยู่ในเกณฑ์น้อย เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกส่วนใหญ่ในขณะนี้ ยังคงอยู่ในพื้นที่ท้ายอ่างฯ ทำให้จำเป็นต้องเก็บกักน้ำไว้ในพื้นที่ตอนบน เพื่อสำรองไว้ในการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศ ในช่วงฤดูแล้งหน้าให้ได้มากที่สุด

ชป. งัดแผนรับน้ำเข้าระบบ 2 ฝั่งเจ้าพระยา ลดผลกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำตอนล่าง

สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน(17 ก.ย. 64) ปริมาณน้ำทางตอนบนที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดที่สถานีวัดน้ำ C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 4.50 เมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,627 ลบ.ม./วินาที แนวน้ำโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงได้ปรับลดปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ 1,287 ลบ.ม./วินาที  ทำให้ปริมาณน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณริมแม่น้ำน้อยนอกคันกั้นน้ำ ตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลดลงตามไปด้วย 

 

สำหรับในระยะต่อจากนี้ไป การควบคุมระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จะคงอัตราปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนอยู่ที่ 1,200 ลบ.ม./วินาที  เพื่อลดระดับน้ำให้อยู่ที่ระดับ +15.50 ม.รทก.ถึง+16.00 ม.รทก. เพื่อรองรับน้ำจากตอนบนในกรณีที่มีน้ำไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น การบริหารจัดการน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ได้มีการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่ง รวมถึงด้านท้ายเขื่อน สามารถลดปริมาณน้ำที่ไหลผ่านอำเภอเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยรับน้ำผ่านประตูระบายน้ำปากคลองบางแก้ว และประตูระบายน้ำปากแม่น้ำลพบุรี ซึ่งจะลดปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนในอัตราที่ลดลงได้ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูน้ำหลากปี 2564 กรมชลประทาน ได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำฝน น้ำท่า อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

 

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้า ระวังปริมาณน้ำฝน และน้ำท่าจากตอนบน เนื่องจากยังคงอยู่ในช่วงฤดูน้ำหลากปี 2564 กรมชลประทาน จะติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ หากมีแนวโน้มว่าจะมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้น จะประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ทราบต่อไป