“บก.ลายจุด”ซัด“ผู้นำยอดนักกู้”จ่อขยายหนี้สาธารณะ 70%-ตร.ประกบ“ทะลุแก๊ส”

จากกรณีที่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน มีมติเห็นชอบกรอบสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP จากเดิมไม่เกินร้อยละ 60 เป็นไม่เกินร้อยละ 70 นั้น

เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2564 นายสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด) แกนนำ “เครือข่ายไล่ประยุทธ์” ผู้ริเริ่มกิจกรรม “คาร์ม็อบ” โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า การกู้หนี้ทะลุเพดาน หมายถึง เกินขีดความสามารถในการใช้หนี้ โดยต้องดึงรายได้ที่ได้มาไปจ่ายดอกหรือเงินต้นจนทำให้รายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงอยู่ของลูกหนี้ จะเห็นสภาพการเป็นหนี้จนวิกฤติอย่างพวกติดหนี้นอกระบบที่ทำงานจ่ายดอกอย่างเดียวอย่างทาส บางคนตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่ควรทำจนเกิดวิกฤติซับซ้อนขึ้น

นายสมบัติ ระบุอีกว่า ดังนั้นการขยายเพดานหนี้ออกไปเป็น 70% ของ GDP ที่รัฐบาลนี้กำลังทำอยู่เป็นความเสี่ยงที่อาจเกิดภาวะหนี้ท่วมหัว เราไม่เห็นความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างรายได้ และไม่เห็นความสามารถในการบริหารงบประมาณประเทศเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

“สุดท้ายคนหนุ่มสาวในเวลานี้คือคนที่ต้องรับมรดกจากรัฐบาลประยุทธ์ ทำงานใช้หนี้ให้กับความไร้ประสิทธิภาพของผู้นำยอดนักกู้คนนี้” นายสมบัติ ระบุ

วันเดียวกัน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊ส ที่สามเหลี่ยมดินแดงวันนี้ว่า ขอเตือนว่า การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรค จะเป็นความผิดหลายข้อหา โดยทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยไว้แล้ว ส่วนการชุมนุมวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ของกลุ่มทะลุแก๊ส ที่สามเหลี่ยมดินแดง นัดหมายเวลา 19.00 น. มีการขว้างปาประทัด ยิงหนังสติ๊ก  ลูกแก้ว พลุไฟ และระเบิดต่างๆ ใส่เจ้าหน้าที่ หน้ากรมดุริยางค์ทหาร มีการจุดไฟเผาป้ายวิทยาลัยการจัดการมหาวิทยาลัยมหิดลได้รับความเสียหาย และประชาชนบริเวณใกล้เคียงจนได้รับความเดือดร้อน

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า จะเข้าบังคับใช้กฎหมาย ให้อยู่ภายในกรอบกฎหมาย ไม่กระทบกับประชาชนในบริเวณใกล้เคียง พร้อมติดตามสถานการณ์ทางการข่าว หากมีการเปลี่ยนจุดนัดหมาย ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลก็มีความพร้อมและเตรียมรับมือ เพื่อดูแลรักษาความสงบ ส่วนกรณีที่มีผู้อ้างตัวว่าเป็นแกนนำของกลุ่ม ทะลุแก๊สนั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบสืบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร และเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ความรุนแรง และก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองมาดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย