"ศบค." ลดเวลา "เคอร์ฟิว" ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 เดือน
"ที่ประชุม ศบค." เคาะลดเวลา "เคอร์ฟิว" 22.00 – 04.00 น. ให้ดำเนินการอย่างน้อย 15 วัน และประเมินอีกรอบ ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 2 เดือน ปรับเวลาห้าง ตลาดนัด ร้านสะดวกซื้อ เปิดได้ถึง 21.00 น.
วันนี้ (27 ก.ย. 64) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวภายหลังการ ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ โดยระบุว่า ที่ประชุม ศบค. มีการพิจารณาความเหมาะสมในการขยายประกาศสถานการ์ฉุกเฉินทุกเขตพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรในคราวที่ 14 ในตอนนี้ได้เห็นภาพว่า สมควรขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร คราวที่ 14 ตั้งแต่ 1 ต.ค. – 30 พ.ย. 64 เนื่องจากในการจะใช้ พ.ร.บ. โรคติดต่อ ณ ตอนนี้มีการเตรียมการ
อย่างไรก็ตาม จะมีรายละเอียดออกมาเพื่อไปสู่การเปลี่ยนผ่าน ต้องมีการเตรียมความพร้อม ทั้งในส่วนของ หน่วยงานที่จะรับช่วงต่อจาก ศบค. และศูนย์บูรณาการกทม.ปริมณฑล รวมถึงจังหวัดต่างๆ ที่จะต้องปรับแบบคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ซึ่งในการใช้อำนาจทาง พ.ร.ก. โรคติดต่อ ต้องมีขั้นตอนต่างๆ เชื่อมไป ระดับจังหวัด ต้องใช้เวลาสักช่วงหนึ่ง ในฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายปกครอง และกระทรวงสาธารณสุข เชื่อมกันอยู่ ดังนั้น ใช้ไปต่อ 2 เดือน
- ลดเวลา "เคอร์ฟิว"
ทั้งนี้ ข้อเสนอการ ปรับมาตรการ สำหรับกิจการ/กิจกรรม พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ในวันที่ 1 ต.ค. 64 ได้แก่
1. การห้ามออกเคหะสถาน
มาตรการเดิม เวลา 21.00 – 04.00 น.
มาตรการปรับ เวลา 22.00 – 04.00 น. ให้ดำเนินการอย่างน้อย 15 วัน และประเมินอีกรอบหนึ่ง
2. ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า
มาตรการเดิม เปิดได้ถึง 20.00 น. ยกเว้นสถานกวดวิชา โรงภาพยนตร์ สปา สวนสนุก สวนน้ำ ฟิตเนส ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ และห้องประชุม/จัดเลี้ยง
มาตรการปรับ เปิดได้ถึง 21.00 น. ให้เปิดสถาบันกวดวิชาได้ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด / กทม. ให้เปิดโรงภาพยนตร์ สปา ห้องออกกำลังกาย ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ได้ตามแนวทางที่กำหนด แต่ยังไม่เปิดดำเนินการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก สวนน้ำ และห้องประชุมจัดเลี้ยง
3.ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด หรือตลาดนัด (เฉพาะจำหน่ายเครื่องอุปโภคบริโภค)
มาตรการเดิม เปิดดำเนินการได้จนถึง 20.00 น.
มาตรการปรับ ให้สามารถดำเนินการได้ถึง 21.00 น.
4. ประเภทกีฬากลางแจ้ง หรือในร่มที่เป็นที่โล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีระบบปรับอากาศหรือประเภทกีฬาในร่ม ที่มีเครื่องปรับอากาศ
มาตรการเดิม ประเภทกีฬากลางแจ้ง หรือในร่วม ที่เป็นที่โล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีระบบปรับอากาศ เปิดไม่เกิน 20.00 น. โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมจัดการแข่งขันได้โดยไม่มีผู้ชม ส่วนประเภทกีฬาในร่วม ที่มีเครื่องปรับอากาศ ยังไม่เปิดดำเนินการสามารถใช้สนามกีฬาทุกประเภทเพื่อการฝึกซ้อมของนักกีฬาทรมชาติได้ โดยแจ้งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. ทราบ
มาตรการปรับ เปิดดำเนินการได้ทุกประเภทกีฬา ไม่เกิน 21.00 น. โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมตามขนาดสถานที่ และประเภทกีฬา
- กรณี ประเภทกีฬาในร่ม จัดการแข่งขันได้โดยไม่มีผู้ชม
- กรณี ประเภทกีฬากลางแจ้ง จัดการแข่งขันได้โดยให้มีผู้ชม ไม่เกิน 25% ของความจุสนาม ผู้ชมได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือ มี ATK/RT-PCR ผลเป็นลบ ภายใน 72 ชั่วโมง
ทั้งนี้ กรณีมีการแข่งขันให้ผ่านความเห็นชอบจาก คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. (กระทรวงการท่องเที่ยวฯ(กกท.) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (กรมอนามัย กรมควบคุมโรค) จัดทำแนวปฏิบัติฯ)
- คงระดับสี พื้นที่ควบคุม
โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับสถานะของแต่ละจังหวัดยังคงเดิม ได้แก่ สีแดงเข้ม พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด สีแดง 37 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด และสีส้ม 11 จังหวด พื้นที่ควบคุม
"อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังคงมาตรการเดิม แต่ปรับบ้างในรายละเอียด ขอให้ผู้ที่ประกอบกิจการกิจกรรม เข้าไปดูมาตรการที่ได้ปรับให้ได้ท่านได้ทำกิจการเพิ่มขึ้น แต่ขอให้คงความควบคุมการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาลไว้ก่อน คิดว่าทุกคนติดเชื้อไว้ก่อน เพื่อให้คงกิจการกิจกรรมได้นานที่สุด"