กปภจ.อยุธยา แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำป่าสัก ฉ.1 เตรียมขนของขึ้นที่สูง
กปภจ.อยุธยา แจ้งสถานการณ์น้ำในแม่น้ำป่าสัก ฉบับที่ 1 เผยกรมชลประทาน จะเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะทยอยเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ เตือนหลายอำเภออยุธยา เตรียมขนของขึ้นที่สูง
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 64 นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้ประชาสัมพันธ์จังหวัด นายอำเภอท่าเรือ นายอำเภอภาชี นายอำเภอนครหลวง นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา นายอำเภอบางปะหัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา และนายกเทศมนตรีเมืองอโยธยา ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนบริษัท ห้างร้าน แพร้านอาหาร และประชาชนเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ
นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ เผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้รับแจ้งจากกรมชลประทาน ว่า ในช่วงที่ผ่านมาพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” และหย่อมความกดอากาศต่ำ เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยทำให้มีฝนตกหนาแน่น และเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่
โดยคาดว่าจะมีปริมาณน้ำท่าไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ระหว่างวันที่ 27 กันยายน 2564 ถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2564 รวมจำนวน 515 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากยังคงระบายน้ำในอัตรา 8.64 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะทำให้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำเต็มอ่างในวันที่ 30 กันยายน 2564
ดังนั้น เพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำที่จะไหลลงเขื่อนได้โดยไม่ทำให้น้ำเต็มเขื่อน กรมชลประทานจึงจะเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนฯ เป็น 34.56 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีโดยจะทยอยเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งเมื่อน้ำจำนวนนี้ไหลลงไปรวมกับปริมาณน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสักแล้ว จะควบคุมให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหกในอัตราไม่เกิน 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำป่าสักตั้งแต่ท้ายเขื่อนพระรามหกในชุมชนนอกคันกั้นน้ำบริเวณวัดสะตือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 2.00 - 2.50 เมตร โดยระดับน้ำที่สูงขึ้นดังกล่าว จะไม่กระทบกับพื้นที่บริเวณตั้งแต่ท้ายน้ำวัดสะตือ ไปจนถึงจุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยาพิจารณาแล้ว เห็นว่าเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ จึงขอแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้านที่ประกอบกิจการในแม่น้ำป่าสัก อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด