ฝนหลวงปรับแผนเติมน้ำลงเขื่อนใหญ่ 3 จังหวัดภาคเหนือ
ฝนหลวงปรับแผน ระดมเครื่องบิน 7 ลำ ทำฝนหลวงเติมน้ำในเขื่อนในจังหวัด เชียงใหม่ ลำปาง ตาก หวังเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งปีหน้า
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 นายรังสรรค์ บุศย์เมือง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เปิดเผยว่า ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน แม้จะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นลักษณะของการกระจายตัวไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ แม้ว่าในบางพื้นที่จะได้รับอิทธิพลจากพายุเตี้ยนหมู่ ทำให้ยังคงมีความต้องการน้ำฝนเพื่อเติมน้ำต้นทุนให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ซึ่งขณะนี้นี้บางในเขื่อนใหญ่บางแห่งมีปริมาณต่ำกว่าร้อยละ50 สำหรับเป้าหมายเขื่อนที่ต้องได้รับการเติมน้ำในเขื่อนเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งปีหน้า ได้แก่ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก, เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่ และ เขื่อนกิ่วลม เขื่อนกิ่มคอหมา จ.ลำปาง
ขณะนี้ ศูนย์ปฏิบัติการภาคเหนือ จึงต้องปรับแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในเดือนตุลาคม 2564 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความต้องการน้ำในปัจจุบัน เพื่อวางแผนช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึง หลังจากเดิมมีแผนที่จะปฏิบัติการฝนหลวงในบริเวณที่ลุ่มพื้นที่เกษตร แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันพื้นที่เกษตรได้รับฝนเพียงพอ จึงปรับแผนเน้นเติมน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ เพื่อให้มีน้ำกักเก็กไว้ใช้ในปีหน้า
ทั้งนี้ มีหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงพร้อมปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือ จำนวน 2 หน่วย คือ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ จัดตั้ง ณ สนามบินกองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ โดยปรับเพิ่มจำนวนเครื่องบินชนิด CASA อีก 2 ลำ รวมเป็น 4 ลำ และคงเครื่องบินชนิด Super King Air 350 ไว้จำนวน 1 ลำ สำหรับปฏิบัติการฝนหลวงเมฆเย็นและงานวิจัย และ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดตาก จัดตั้ง ณ สนามบินท่าอากาศยานตาก จังหวัดตาก โดยยังคงใช้เครื่องบินชนิด CASA จำนวน 2 ลำ
ส่วนหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ทั้งที่จังหวัดตากและจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนปฏิบัติการฝนหลวงทุกวัน ซึ่งหากสภาพอากาศมีความพร้อมที่จะขึ้นบินทำฝนหลวงจะรีบดำเนินการในทันที ซึ่งยังพอมีเวลาเหลือทำฝนหลวงได้อีกประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งสภาพอากาศจะไม่เอื้อกับการทำฝนหลวงเนื่องจากความชื้นในอากาศมีน้อยลง