ปภ.อัพเดต 4 ต.ค.อีก 18 จว.ยัง“น้ำท่วม”-กระทบ 2.7 แสนครัวเรือน
“ปภ.” อัพเดตสถานการณ์ “น้ำท่วม” 4 ต.ค. คลี่คลายแล้ว 14 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 2.7 แสนครัวเรือน เหลืออีก 18 จังหวัดยังท่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2564 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ในช่วงวันที่ 23 ก.ย. – 4 ต.ค. 2564 เกิดอุทกภัยใน 32 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม รวม 201 อำเภอ 1,046 ตำบล 7,144 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 271,092 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 8 ราย สูญหาย 1 ราย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 14 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 18 จังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงาน จากอิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ซึ่งเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตั้งแต่ วันที่ 23 ก.ย. 2564 – ปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 32 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และรวม 201 อำเภอ 1,046 ตำบล 7,144 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 271,092 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 14 จังหวัด (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก บุรีรัมย์ นครปฐม ยโสธร สุรินทร์ เลย ศรีสะเกษ สระแก้ว จันทบุรี ปราจีนบุรี กำแพงเพชร) มีผู้เสียชีวิต 8 ราย (ลพบุรี ชาย 6 ราย เพชรบูรณ์ ชาย 1 ราย ชัยนาท ชาย 1 ราย) สูญหาย 1 ราย (เพชรบูรณ์ หญิง 1 ราย)
ยังคงมีสถานการณ์ 18 จังหวัด ดังนี้
1.สุโขทัย ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีสำโรง อำเภอสวรรคโลก อำเภอคีรีมาศ และอำเภอเมืองสุโขทัย ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
2. พิษณุโลก ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังทอง อำเภอพรหมพิราม และอำเภอบางระกำ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
3. เพชรบูรณ์ ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ติดแม่น้ำป่าสัก ได้แก่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
4. พิจิตร ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบึงนาราง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง อำเภอ โพทะเล และอำเภอสามง่าม ปัจจุบันระดับน้ำลดลงยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตรอยู่
5. ขอนแก่น ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอภูผาม่าน อำเภอชุมแพ อำเภอหนองเรือ อำเภอแวงน้อย อำเภอแวงใหญ่ อำเภอโคกโพธิ์ชัย อำเภอชนบทมัญจาคีรี และอำเภอโนนศิลา ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้นยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ
6. ชัยภูมิ ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอภูเขียว อำเภอบ้านเขว้า
อำเภอจัตุรัส และอำเภอคอนสวรรค์ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
7. นครราชสีมา ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสูงเนิน อำเภอโนนสูง อำเภอเมืองนครราชสีมา อำเภอพิมาย อำเภอปักธงชัย อำเภอโนนไทย อำเภอคงอำเภอจักราช และอำเภอแก้งสนามนาง ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
8. อุบลราชธานี ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และอำเภอวารินชำราบ ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
9. นครสวรรค์ ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอโกรกพระ และอำเภอพยุหะคีรี ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
10. อุทัยธานี ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอเมืองอุทัยธานี ระดับน้ำลดลง
11. ชัยนาท ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอมโนรมย์ อำเภอวัดสิงห์ อำเภอเนินขาม อำเภอหันคา อำเภอสรรคบุรี อำเภอสรรพยา อำเภอเมืองชัยนาถ และอำเภอหนองมะโมง ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
12. ลพบุรี ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอชัยบาดาล และอำเภอบ้านหมี่ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
13. สระบุรี ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังม่วง อำเภอแก่งคอย อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมืองสระบุรี อำเภอเสาไห้ อำเภอหนองโดน อำเภอบ้านหมอ อำเภอดอนพุด อำเภอหนองแซง อำเภอวิหารแดง และอำเภอหนองแค ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
14. สุพรรณบุรี ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
15. สิงห์บุรี ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอค่ายบางระจัน ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
16. อ่างทอง ปัจจุบันยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอไชโย และอำเภอป่าโมก ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเหตุแม่น้ำเจ้าพระยาล้นพนังกั้นน้ำบริเวณ อ.ป่าโมก ต.บางปลากด
17. พระนครศรีอยุธยา น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 5 ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร และอำเภอพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองโผงเผงซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
18. ปทุมธานี น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น
ภาพรวมสถานการณ์ปัจจุบันหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ สำหรับประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง