"อีสาน" เทพรรคพวก "ลุงตู่" ถ้าเลือกตั้งโหวต "สุดารัตน์-พิธา-พท." เป็นนายกฯ
ไตรมาส 3/2564 ภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสานอยู่ในระดับแย่ รัฐบาลได้คะแนนต่ำสุดตั้งแต่มีการสำรวจ "อีสาน" เทพรรคพวก "ลุงตู่" ถ้าเลือกตั้งโหวต "สุดารัตน์-พิธา-พท." เป็นนายกฯ
วันนี้ (6 ต.ค. 64) อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเผยผลสำรวจเรื่อง “ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสาน ไตรมาส 3/2564 และคาดการณ์ไตรมาส 4/2564” ผลสำรวจพบว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสาน ไตรมาส 3/2564 (ก.ค. – ก.ย. 64) เท่ากับ 30.2 เต็ม 100 อยู่ในระดับแย่ และคาดว่าไตรมาส 3/2564 (ต.ค. – ธ.ค. 64) จะเท่ากับ 30.7 ดีขึ้นเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในระดับแย่ ความมั่นใจในการซื้อของมูลค่าสูงอยู่ในระดับต่ำ ในส่วนคะแนนด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลได้ 20.3 เต็ม 100 คะแนนภาพรวมของรัฐบาลได้ 19.3 ต่ำสุดเท่าที่เคยสำรวจมา เนื่องจากการบริหารจัดการปัญหาโรคโควิดและเศรษฐกิจไม่เป็นที่น่าพอใจ นอกจากนี้หากมีเลือกตั้งใหม่กลุ่มตัวอย่าง อีสานต้องการคุณหญิงสุดารัตน์มาเป็นนายกฯ เพื่อมาฟื้นฟูเศรษฐกิจ มากที่สุด ตามมาติดๆ ด้วย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขณะที่พรรคการเมืองที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอีสานยังเป็นพรรคเพื่อไทย ตามมาด้วยพรรคก้าวไกล พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย และพรรคไทยสร้างไทย
ผศ.ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพลเปิดเผยว่าการสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานต่อภาวะเศรษฐกิจระดับครัวเรือน เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนด้านต่างๆ และคำนวณดัชนีภาวะเศรษฐกิจอีสานในไตรมาส 3/2564 และคาดการณ์ไตรมาส 4/2564 พร้อมประเมินผลงานรัฐบาลด้านเศรษฐกิจและภาพรวม ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 1-3 ตุลาคม 2564 จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,110 รายในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด
เมื่อสอบถามเกี่ยวกับ รายได้และทรัพย์สินครัวเรือน โอกาสหางานใหม่หรือเริ่มธุรกิจใหม่ การหมุนเงินเพื่อใช้จ่ายและชำระหนี้ และการซื้อของมูลค่าสูง และทำการประมวลผลได้ดัชนีต่างๆ ซึ่งค่าดัชนีมีค่าระหว่าง 0 - 100 หากดัชนีอยู่ระหว่าง 0 – 19.9 คือ แย่มาก ระหว่าง 20 – 39.9 คือ แย่ ระหว่าง40 – 59.9 คือ ปานกลาง/พอใช้ ระหว่าง 60 – 79.9 คือ ดี และ ระหว่าง 80 – 100 คือ ดีมาก
ดัชนีไตรมาส 3/2564 มีรายละเอียดดังนี้
· 1) ดัชนีรายได้และทรัพย์สินครัวเรือนไตรมาส 3/2564 เท่ากับ 34.8 หมายความว่า รายได้และทรัพย์สินครัวเรือนอีสาน อยู่ในระดับแย่
· 2) ดัชนีโอกาสหางานใหม่หรือเริ่มธุรกิจใหม่ไตรมาส 3/2564 เท่ากับ 28.1 หมายความว่า โอกาสหางานใหม่หรือเริ่มธุรกิจใหม่ในอีสาน อยู่ในระดับแย่
· 3) ดัชนีการหมุนเงินเพื่อใช้จ่ายและชำระหนี้ไตรมาส 3/2564 เท่ากับ 31.9 หมายความว่า การหมุนเงินเพื่อใช้จ่ายและชำระหนี้ของครัวเรือนอีสาน อยู่ในระดับแย่
· 4) ดัชนีการซื้อของมูลค่าสูงไตรมาส 3/2564 เท่ากับ 25.9 หมายความว่า ความมั่นใจของครัวเรือนอีสานในการซื้อของมูลค่าสูง อยู่ในระดับแย่
· 5) ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสานไตรมาส 3/2564 เท่ากับ 30.2 หมายความว่า ภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสานโดยรวม อยู่ในระดับแย่ และแย่กว่าไตรมาส 3/2564 ซึ่งมีค่าดัชนี 31.6
ดัชนีคาดการณ์ไตรมาส 4/2564 มีรายละเอียดดังนี้
· 1) ดัชนีรายได้และทรัพย์สินครัวเรือนคาดการณ์ไตรมาส 4/2564 เท่ากับ 34.8 หมายความว่า รายได้และทรัพย์สินครัวเรือนอีสาน จะอยู่ในระดับแย่
· 2) ดัชนีโอกาสหางานใหม่หรือเริ่มธุรกิจใหม่คาดการณ์ไตรมาส 4/2564 เท่ากับ 29.5 หมายความว่า โอกาสหางานใหม่หรือเริ่มธุรกิจใหม่ในอีสาน จะอยู่ในระดับแย่
· 3) ดัชนีการหมุนเงินเพื่อใช้จ่ายและชำระหนี้คาดการณ์ไตรมาส 4/2564 เท่ากับ 31.8 หมายความว่า การหมุนเงินเพื่อใช้จ่ายและชำระหนี้ของครัวเรือนอีสาน จะอยู่ในระดับแย่
· 4) ดัชนีการซื้อของมูลค่าสูงคาดการณ์ไตรมาส 4/2564 เท่ากับ 26.6 หมายความว่า ความมั่นใจของครัวเรือนอีสานในการซื้อของมูลค่าสูง จะอยู่ในระดับแย่
· 5) ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสานคาดการณ์ไตรมาส 4/2564 เท่ากับ 30.7 หมายความว่า ภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสานโดยรวม จะอยู่ในระดับแย่ และจะดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2564 ซึ่งมีค่าดัชนี 30.2
เมื่อให้กลุ่มตัวอย่างประเมินผลงานรัฐบาลด้านเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 3/2564 ที่ผ่านมา พบว่า ได้คะแนนเพียง 20.3 เต็ม 100 ต่ำที่สุดตั้งแต่ทำการสำรวจมา เช่นเดียวกับไตรมาส 2/2564 เนื่องจากในไตรมาส 3/2564 การระบาดของโรคโควิด 19 อยู่ในระดับที่น่ากังวลและยังไม่คลี่คลาย และครัวเรือนอีสานได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมาก และการเยียวยาของรัฐบาลไม่เพียงพอต่อผลกระทบที่ได้รับ นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากน้ำท่วมในภาคอีสานตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน และการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ขณะที่ผลงานโดยรวมของรัฐบาลในช่วงไตรมาส 3/2564 ที่ผ่านมาได้คะแนนเพียง 19.3 เต็ม 100 ต่ำที่สุดตั้งแต่ทำการสำรวจมา เนื่องจากการบริหารจัดการปัญหาโรคโควิด 19 และการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ
เมื่อสอบถามต่อว่า “ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ ท่านอยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อมาฟื้นฟูเศรษฐกิจ” พบว่า อันดับหนึ่ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 24.0 รองลงมาคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 23.0 ตามมาด้วยหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 22.1 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 14.6 คุณอนุทิน ชาญวีรกุล ร้อยละ 7.8 คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ 2.7 พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ร้อยละ 2.1 คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ร้อยละ 0.4 และอื่นๆ ร้อยละ 3.3
เมื่อสอบถามว่า “ถ้าเลือกตั้ง ส.ส. วันนี้ ท่านมีแนวโน้มจะลงคะแนนให้พรรคใด” พบว่า อันดับหนึ่ง พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 34.7 รองลงมาพรรคก้าวไกล ร้อยละ 21.7 ตามมาด้วยพรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 14.9 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 12.4 พรรคไทยสร้างไทย ร้อยละ 10.8 พรคคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 2.8 พรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 2.1 และอื่นๆ ร้อยละ 0.6