"ผบ.ตร." เด้งรับนโยบายเปิดประเทศ สั่ง ตำรวจท่องเที่ยว - ตม. เตรียมพร้อม
" พล.ต.อ.สุวัฒน์ " สั่งการ ตำรวจ ท่องเที่ยว - ตม. เตรียมพร้อม การปฏิบัติงานรองรับนักท่องเที่ยว ด้วยความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - 19
12 ต.ค.2564 จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับความคืบหน้า และความสำเร็จในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จึงสั่งการไปยังศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และกระทรวงสาธารณสุข ให้ร่วมพิจารณา ในกรณีประเทศไทยจะเริ่มเปิดรับการเดินทางเข้าประเทศ ไม่ต้องกักตัว ตามเงื่อนไขและมาตรการอื่นๆ ตามที่ ศบค. ได้กำหนด โดยจะเริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิการยน นี้
ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงแถลงการณ์ของนายกฯ ว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาล พร้อมกำชับการปฏิบัติของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) ตามภารกิจพิธีการคนเข้าเมืองและตามมาตรการทางสาธารณสุข ที่ ศบค. ได้กำหนด รวมถึงภารกิจการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องทุกพื้นที่
โดยให้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด รองรับภารกิจการเปิดพื้นที่สำหรับการท่องเที่ยว พร้อมสนับสนุนกำลังเมื่อมีการร้องขอจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในทุกพื้นที่ตามคำสั่ง ประกาศ ข้อกำหนดของ ศบค. และคำสั่งจังหวัดที่เกี่ยวข้อง และเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง พื้นที่เสี่ยงต่างๆ อย่างเคร่งครัด
ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(บช.ทท.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีความพร้อมสำหรับภารกิจพิธีการคนเข้าเมือง คัดกรองการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตามท่าอากาศยาน ด่านทางบก และด่านทางน้ำ พร้อมประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่ ศบค. ได้กำหนด รวมถึงการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ในทุกจังหวัดที่จะทำการเปิดพื้นที่สำหรับการท่องเที่ยว
รวมถึงการออกตรวจตราพื้นที่ ให้คำแนะนำแก่ประชาชน นักท่องเที่ยวในการปฏิบัติตาม ประกาศ ข้อกำหนด มาตราการ ของ ศบค. และคำสั่งจังหวัดที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังคงมาตรการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ออกตรวจสอบ สถานประกอบการ สถานบันเทิง ร้านอาหารที่ลักลอบจำน่ายสุรา จุดสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้ผู้บังคับบัญชาในแต่ละพื้นที่คอยควบคุมกำกับการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด หากมีการปล่อยปละละเลย ก็จะพิจารณาความบกพร่องทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดต่อไป นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด หรือขอความช่วยเหลือ สามารถแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง มายังหมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชม.