รฟท. ลุยปรับปรุงภูมิทัศน์ ริมทางรถไฟสายตะวันออก มักกะสัน – คลองตัน
ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณพื้นที่ริมทางรถไฟสายตะวันออก ระหว่างสถานีมักกะสัน - คลองตัน เพื่อความเป็นเระเบียบ เรียบร้อย สวยงาม และปลอดภัย ตามนโยบายกร
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2564 นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ริมทางรถไฟ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง รฟท. ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชนในพื้นที่บริเวณริมทางรถไฟสายตะวันออก
ระหว่างสถานีมักกะสัน - คลองตัน ช่วงทางผ่านเสมอระดับถนนนารายณ์ร่วมพิพัฒน์ – ทางผ่านเสมอระดับถนนซอยศูนย์วิจัยความยาว เพื่อสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม และปลอดภัย เพื่อป้องกันการบุกรุกเข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เร่งพัฒนาพื้นที่โดยรอบโครงสร้างพื้นฐานให้มีทัศนียภาพที่ร่มรื่นสวยงาม เพื่ออำนวยความสะดวก และส่งเสริมการเดินทางระบบขนส่งสาธารณะ
ภายใต้แนวคิด “คมนาคมสีสัน สร้างสรรค์ประเทศไทย” การรถไฟฯ ได้รับนโยบาย และมีการดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่สองฝั่งถนน เขตทางรถไฟ ให้มีความสวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย สอดรับกับโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่ดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการไปแล้ว
สำหรับโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่บริเวณพื้นที่ริมทางรถไฟสายตะวันออก ระหว่างสถานีมักกะสัน - คลองตัน บริเวณทางผ่านเสมอระดับถนนนารายณ์ร่วมพิพัฒน์ – ทางผ่านเสมอระดับ ถนนซอยศูนย์วิจัยความยาวมีระยะทางการปรับปรุงทั้งสิ้น 500 เมตร คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 2,000 ตารางเมตร โดยมีการพัฒนาพื้นที่เพื่อส่งเสริมทัศนียภาพ และเพิ่มความสวยงาม ร่มรื่น ด้วยการปลูกหญ้า พันธุ์ไม้ประจำถิ่น
พร้อมมีการจัดระเบียบพื้นที่ จัดเก็บขยะมูลฝอย ติดตั้งระบบไฟส่องสว่าง ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัย มีบรรยากาศที่สดชื่น สร้างความร่มรื่นแก่ผู้ใช้บริการ
ทั้งนี้ หลังจากนี้ รฟท. ยังเตรียมดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่บริเวณโดยรอบโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟฯ ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเป็นระเบียบ เรียบร้อย สวยงาม รวมถึงป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกเข้ามาใช้ประโยชน์ ตลอดจนเป็นการสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าว และประชาชนที่ใช้เส้นทางในการเดินทางสัญจร รวมถึง เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มมากขึ้นด้วย