"นายกฯ"ขอ"ญี่ปุ่น" ผ่อนคลายมาตรการ "คนไทย"เดินทางไปท่องเที่ยว
"ทูตญี่ปุ่น" เข้าพบ "นายกฯ" ยินดี สถานการณ์โควิด ใน ไทย เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น "ประยุทธ์" เผย ให้ความสำคัญ "ชาวญี่ปุ่น" ในการเดินทางเข้าเมืองตามขั้นตอน ชง ผ่อนคลายมาตรการให้คนไทย เข้าญี่ปุ่น เช่นเดียวกัน ทั้งเชิญชวนเข้ามาลงทุน BCG Economy เสริม ยุทธศาสตร์เติบโตสีเขียว
ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายนาชิดะ คาซูยะ (H.E. Mr. Nashida Kazuya) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยได้เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและญี่ปุ่นในด้านต่างๆ ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นนายคิชิดะ ฟูมิโอะ ไทยพร้อมร่วมมือกับนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นเพื่อความสัมพันธ์ที่ก้าวหน้าต่อเนื่อง ทั้งนี้ ขอบคุณประเทศญี่ปุ่นด้วยใจจริงที่มีบทบาทสำคัญสนับสนุนการมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัท AstraZeneca เครื่องผลิตออกซิเจน 868 เครื่อง รวมถึงให้ความร่วมมือด้านห่วงโซ่ความเย็นและเวชภัณฑ์ ต่าง ๆ แก่ไทยเพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์โควิด-19
เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญกับความร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่นเสมอมา ยินดีกับนายกรัฐมนตรีที่สถานการณ์โควิด-19 ในไทยเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เชื่อมั่นในการดำเนินนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่จะสามารถควบคุมสถานการณ์ให้ดีขึ้นอีกเป็นไปตามแนวทางการดำเนินนโยบายผ่อนคลายและกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลไทยซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ประกาศเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ฝากความปรารถนาดี และความพร้อมที่จะผลักดันความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างญี่ปุ่นกับไทยเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งมีกำหนดครบรอบ 135 ปีในปี 2565
ในโอกาสนี้ การหารือเกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายการเข้าเมือง เอกอัครราชทูตได้สอบถามถึงมาตรการที่ไทยกำหนดและประเทศที่พิจารณาอนุญาต ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการประกาศมาตรการผ่อนคลายให้ชาวต่างชาติซึ่งแน่นอนว่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่ไทยให้ความสำคัญมากที่สุด ที่จะพิจารณาให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามขั้นตอน และกรอบเวลา โดยกำหนดมาตรการที่เหมาะสมควบคู่ไปกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วย
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ญี่ปุ่นสนับสนุนการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการการเข้าเมืองให้กับชาวไทยในกลุ่มต่างๆ เช่น นักธุรกิจ แรงงานทักษะ นักศึกษา รวมทั้งนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน
ในส่วนของความสัมพันธ์พหุภาคี เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าในฐานะที่ไทยเป็นประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน–ญี่ปุ่น ในห้วงปี 2564 – 2567 จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือเพื่อความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่นแน่นแฟ้นมากขึ้น และขอสนับสนุนไทยในเวทีต่างๆ ได้แก่ การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย และการเป็นที่ตั้งของศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ACPHEED) ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันความพร้อมของไทยที่จะร่วมมือกับญี่ปุ่นในทุกประเด็นเพื่อสนับสนุนผลประโยชน์ระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวเชิญชวนการลงทุนภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นที่สอดคล้องกับโมเดล เศรษฐกิจ BCG Economy ซึ่งสอดคล้องและจะส่งเสริมกับยุทธศาสตร์การเติบโตสีเขียว(Green Growth Strategy) ของญี่ปุ่น และหวังว่าจะได้มีโอกาสหารือกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในโอกาสแรกต่อไป