ผู้ว่าฯ โคราช สั่งเข้มคุมคลัสเตอร์ เตรียมเปิดเมือง 1 พ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 64 นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัด เพื่อรองรับการเปิดจังหวัดในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ว่า ได้สั่งการให้ทั้ง 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา คุมเข้มจำกัดวงการแพร่ระบาดในคลัสเตอร์ต่างๆ ให้ได้โดยเร็ว เพื่อให้ผู้ป่วยรายวันลดเหลือต่ำกว่า 100 ราย ให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมา ทุกพื้นที่ได้พยายามที่จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อและควบคุมการระบาดกันอย่างเต็มที่ ด้วยการสอบสวนโรค-ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก เพื่อนำผู้ป่วยติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงสูง เข้าสู่กระบวนการกักตัว และรับการรักษาอย่างรวดเร็ว ควบตู่ไปกับการดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมในทุกพื้นที่อย่างเข้มข้น แต่ต้องยอมรับว่า ยังคงพบการผู้ป่วยรายใหม่รายวันอยู่ ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อกันเองในพื้นที่จังหวัด โดยเฉพาะในชุมชน หรือในสถานประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม ที่ยังป้องกันควบคุมได้ไม่เข้มข้น จึงเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่ขึ้นมาอีก ซึ่งได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกพื้นที่ ดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคให้เข้มข้นมากขึ้นทุกมาตรการ หากพบการฝ่าฝืนไม่ให้ความร่วมมือ ให้บังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ ได้ทันที

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุด วันนี้ศูนย์โควิด 19 โคราช รายงานว่า มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 165 ราย เป็นการติดเชื้อกันเองในจังหวัด 150 ราย และอีก 15 ราย ติดเชื้อมาจากนอกจังหวัด ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 28,192 ราย ซึ่งรักษาหายแล้ว25,321 ราย ยังรักษาตัวอยู่ 2,665 ราย แต่วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย โดยรายที่ 1 เป็นผู้ป่วยติดเชื้อเพศชาย อายุ 87 ปี ชาว ต.โนนไทย อ.โนนไทย มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยโควิด 19 เสียชีวิตที่ รพ.มหาราชฯ เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ,รายที่ 2 เป็นผู้ป่วยติดเชื้อเพศชาย อายุ 56 ปี ชาว ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยโควิด 19 เสียชีวิตที่ รพ.มหาราชฯ เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 14 ตุลาคม 2565 และรายที่ 3 เป็นผู้ป่วยติดเชื้อเพศชาย อายุ 58 ปี ชาว ต.เมืองปัก อ.ปักธงชัย มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยโควิด 19 และมีความเสี่ยงสูง น้ำหนัก 100 กิโลกรัม เสียชีวิตที่ รพ.มหาราชฯ เมื่อเวลา 15.55 น. วันที่ 14 ตุลาคม 2564 ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ 206 รายแล้ว

ส่วนการป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนต้านโควิด 19 สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ กลุ่มเป้าหมายอายุ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 2,112,381 ราย ล่าสุดสามารถฉีดเข็มที่ 1 ไปได้ 1,227,530 รายแล้ว หรือ คิดเป็น 58.03 % เข้มที่ 2 ฉีดได้ 842,388 ราย หรือ 38.95 % และเข็มที่ 3 ฉีดได้ 49,367 ราย หรือ 2.32 % รวมฉีดวัคซีนในกลุ่มนี้ไปแล้ว 2,119,285 โดส ส่วนเป้าหมายเป็นกลุ่มเด็กอายุ และเยาวชน อายุ 12-18 ปี จำนวน 144, 928 ราย สามารถฉีดวัคซีนเข็มแรกไปได้ 66,631 ราย หรือ 45.98% รวมฉีดวัคซีนในกลุ่ม 66,631 โดส

อย่างไรก็ตาม วันนี้ยังมีคลัสเตอร์ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ 5 คลัสเตอร์ เป็นคลัสเตอร์เก่า และคลัสเตอร์ใหม่ ได้แก่

1.คลัสเตอร์ โรงงานแหลมทอง อ.สูงเนิน ซึ่งพนักงานที่ติดเชื้ออยู่ในหลายอำเภอ ทั้งใน อ.สูงเนิน สีคิ้ว โนนไทย และ อ.ด่านขุนทด และกระจายเชื้อเป็นวง 2 ไปยังครอบครัวหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง อีกทั้งพบพนักงานใน อ.สูงเนิน ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 1 ราย รวมคลัสเตอร์นี้ ติดเชื้อไปแล้ว 673 ราย

2.คลัสเตอร์ พนักงาน บริษัท ศิริวิทย์-สแตนเลย์ จำกัด ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา มีพนักงานทั้งหมด 1,490 คน พบพนักงานติดเชื้อ เดิม 68 ราย แล้วเชื้อกระจายเป็นวง 2 สู่ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหรือคนในครอบครัว อีก 5 ราย ต่อมาพบพนักงานติดเชื้อเพิ่มอีก 3 รายจากการค้นหาเชิงรุก รวมคลัสเตอร์นี้ ติดเชื้อแล้ว 76 ราย

3.คลัสเตอร์ ชุมชนหลังวัดสามัคคี ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา พบผู้ป่วยติดเชื้อรายแรกที่บ้านเลขที่ 180/2 ชุมชนหลังวัดสามัคคี แล้วเชื้อแพร่สู่คนในครอบครัว ญาติ และคนในชุมชนเดียวกัน รวมติดเชื้อ 16 ราย ต่อมาเชื้อระบาดเป็นวง 2 โดยคนในชุมชนที่ติดเชื้อ 2 ราย ทำงานที่ร้านสเต็ก บ้านย่า ได้ไปแพร่เชื้อให้เจ้าของร้านและพนักงาน ทำให้ที่ร้านฯ มีผู้ติดเชื้อถึง 26 ราย และเมื่อสอบสวนโรคเพิ่มเติม พบว่าเชื้อแพร่กระจายออกไปเป็นวงที่ 3 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 11 ราย และกระจายเป็นวงที่ 4 ติดเชื้ออีก 1 ราย รวมคลัสเตอร์นี้ ติดเชื้อแล้ว 54 ราย

4.คลัสเตอร์ กองพันสุนัขทหาร อ.ปากช่อง เป็นคลัสเตอร์ใหม่ เริ่มมาจากกำลังพลของหน่วย 2 นายที่รับประทานอาหารร่วมกันตรวจพบติดเชื้อโควิด 19 ทั้ง 2 ราย จากนั้นได้กระจายเชื้อให้กับเพื่อนและนายทหารที่ทำงานในกองร้อยเดียวกัน รวมติดเชื้อวงแรก 11 ราย แล้วหนึ่งในนั้น แพร่เชื้อออกไปเป็นวงที่ 2 ทำให้ภรรยาติดเชื้อด้วย รวมคลัสเตอร์นี้ ติดเชื้อแล้ว 12 ราย

5.คลัสเตอร์ ครอบครัว ต.กำปัง อ.โนนไทย เป็นคลัสเตอร์ใหม่ ที่พบการแพร่กระจายเชื้อออกไปถึง 3 วง โดยเริ่มมาจากสามีครอบครัวหนึ่งใน หมู่ 4 ต.กำปัง ติดเชื้อ แล้วทำให้ภรรยาและลูกติดเชื้อไปด้วย จากนั้น สามีแพร่เชื้อสู่เพื่อนร่วมงาน 3 ราย ภรรยาแพร่เชื้อให้เพื่อนสนิท 1 ราย ต่อมาระบาดเป็นวงที่ 2 โดยเพื่อนของสามีที่ติดโควิด 19 แพร่เชื้อต่อให้ภรรยา ส่วนเพื่อนสนิทของภรรยาที่ติดเชื้อแล้ว ก็แพร่ต่อไปให้กับญาติที่ร่วมบ้านเดียวกัน 2 ราย และแพร่ให้คนรู้จักที่รับประทานอาหารร่วมกัน 1 ราย ซึ่งคนรู้จักรายนี้ ได้แพร่กระจายเชื้อเป็นวงที่ 3 ทำให้ลูกสาว และเครือญาติ 2 ราย ที่ไปมาหาสู่อยู่บ้านติดกันติดเชื้อไปด้วย รวมคลัสเตอร์นี้ ติดเชื้อแล้ว 14 ราย ซึ่งสาเหตุการติดเชื้อ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเพิ่มเติมว่า รับเชื้อมาจากที่ใด และเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์อื่นหรือไม่ เพื่อเร่งควบคุมและสกัดการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัดโดยเร็ว