พายุถล่มซ้ำน้ำป่าทะลักท่วมชาวภูเขียว ขนของหนีน้ำวุ่น
พายุปาซุถล่มซ้ำ ทำน้ำป่าทะลักท่วมรอบ 2 ชาวภูเขียวเร่งขนของหนีวุ่น ขณะที่เขื่อนจุฬาภรณ์น้ำเกินความจุแล้ว เตือนชาวบ้านท้ายน้ำชีเตรียมรับมือ
อิทธิพลของพายุโซนร้อนกำลังแรง “คมปาซุ” ที่อ่อนกำลังลงจนสลายตัวไปแล้ว แต่ส่งผลทำให้เกิดร่องมรสุมพาดผ่านยังทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้างทั่วประเทศไทย ขณะที่จ.ชัยภูมิ ในหลายพื้นที่มาต่อเนื่องติดต่อกัน 2 วัน บนเทือกเขาภูเขียว อ.คอนสาร และ อ.ภูเขียวทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากทะลักจากเทิกเขาภูเขียว-ภูหยวก หลากเข้าท่วมในโซนเศรษฐกิจกลางตัวอำเภอภูเขียว ได้รับความเสียหายถูกตัดขาดไปแล้ว 1 หมู่บ้าน ในหมู่บ้านหนองหว้าทอง ในพื้นที่ ต.กวางโจนต.ภูเขียว น้ำป่าได้ไหลทะลักไหลแรงตามถนนในตัวอำเภอสูงกว่า 40 - 50 เซนติเมตร ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนตั้งอยู่ริมถนนในเขต ต.กวางโจน ต.ผักปัง และในเขตเทศบาล ต.ภูเขียว อ.ภูเขียว ชาวบ้านเร่งขนย้ายสิ่งของหนีน้ำอลหม่าน ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ รถยนต์ ต้องเร่งเคลื่อนย้ายออกจากบ้านไปอยู่ในพื้นที่สูง มาตั้งแต่ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งหน่วยกู้ภัยเร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของ รวมทั้งเส้นทางถนนทางหลวงหมายเลข 201 (ชัยภูมิ-ภูเขียว-ชุมแพ) หลังธนาคาร ธกส.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ นอกจากนี้น้ำป่ายังไหลทะลักเข้าท่วม ต.กวางโจน ต.ผักปัง และเทศบาล ต.ภูเขียว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านส่วนใหญ่ขนของหนีน้ำไม่ทันเนื่องจาก น้ำป่าไหลหลากมามาเร็วมาก
ประชาชนใกล้ 4 แยก ศาลเจ้าแม่ทับทิมภูเขียว หรือ แยก ธกส.สาขาภูเขียว อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ บอกว่าถูกมวลน้ำไหลผ่าน ไหลเข้าท่วมบ้านในช่วงเช้าวันนี้ที่ผ่านมาเกิดน้ำป่าเริ่มไหลทะลักผ่านเข้ามายังเส้นทางหน้าบ้านตนเองจนตั้งตัวไม่ทันอย่างไม่เคยเจอมาก่อนในรอบกว่า 10 ปี เช่นกัน ขณะที่ตนเอง และแม่ได้เร่งขนย้ายสิ่งของอย่างจ้าระหวั่น และขอความร่วมมือให้คนที่ใช้รถขับผ่านเส้นทางที่จะเข้าตัวอำเภอภูเขียวให้ขับช้าๆเนื่องจากน้ำได้ไหลเข้าท่วมตีตัวบ้านได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมากด้วย
ขณะที่ด้านความเสียหายน้ำป่ายังไหลทะลักเข้าพื้นที่ชั้นล่างอาคารเรียน โรงเรียนกวางโจนศึกษา ต.กวางโจน อ.ภูเขียว ได้รับความเสียหายไปแล้วในครั้งนี้อีก 1 แห่งด้วย เบื้องต้นมีชาวบ้านในพื้นที่อ.ภูเขียว กว่า 1,000 ครอบครัว ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านในครั้งนี้แล้ว รวมทั้งต้องปิดเส้นทางปิดการจราจรห้ามรถทุกชนิดเข้าไปยังถนนกลางตัวอำเภอภูเขียวเป็นการชั่วคราวจนกว่าน้ำท่วมถนนจะลดลง
พร้อมระดมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำป้ายไปติดตั้งเตือนประชาชนที่จะใช้เส้นทางผ่านในตัวอำเภอภูเขียว ให้หันไปใช้เส้นทางอ้อมสายอื่นแทนไปก่อนในขณะนี้แล้ว จนกว่าระดับน้ำจะลดลง ล่าสุดปริมาณน้ำในเขื่อนจุฬาภรณ์ มีน้ำป่าหลากไหลเข้าเขื่อนจนเต็มความจุแล้ว ต้องยกประตูระบายน้ำออกไปเขื่อนห้วยกุ่ม ไปยังลำน้ำพรมที่จะหลากเข้าท่วมในพื้นที่อำเภอใกล้เคียงในเขต อ.เกษตรสมบูรณ์ อ.บ้านแท่น อ.แก้งคร้อ และ อ.คอนสวรรค์บางส่วน ที่อยู่พื้นที่ท้ายน้ำต้องเตรียมความพร้อมรับมือเสี่ยงเกิดน้ำป่าหลากน้ำท่วมฉับพลัน
สำหรับรอยต่อพื้นที่ที่อยู่ใกล้ริมน้ำชีไหลผ่าน อ.หนองบัวระเหว อ.บ้านเขว้า อ.จัตุรัส,และเนินสง่า รวมทั้งเขื่อนลำคันฉู อ.บำเหน็จณรงค์ และโดยเฉพาะในโซนเศรษฐกิจย่านกลางใจเมืองเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ที่มีระดับน้ำล้นเขื่อนลำปะทาว เริ่มมีระดับสูงเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ยังจะมีน้ำป่าหลากจากเทือกเขาภูแลนคา ลงมาพื้นที่ล้นสันเขื่อนลำปะทาวยังต่อเนื่อง และยังต้องเฝ้าในโซนเศรษฐกิจกลางใจเมืองชัยภูมิ ในระยะอีก 1-3 วันนี้ยังเสี่ยงเกิดน้ำท่วมหนักซึ่งจากรอบแรกจากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ที่ถือว่าหนักสุดในรอบกว่า 50 ปีที่ผ่านมามาตั้งแต่ช่วงวันที่ 24 ก.ย.64 ที่ผ่านมา
และในขณะนี้ถึงแม้ว่าระดับน้ำได้ลดลงสู่ภาวะปกติแล้ว แต่สถานการณ์การเกิดฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุคมปาซุ ยังเสี่ยงทำให้กลับมาเกิดน้ำท่วมฉับพลันซ้ำอีกเป็นรอบที่สอง ทางเทศบาลเมืองชัยภูมิ ได้เร่งเตรียมแผนการป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมหนักซ้ำ ด้วยการเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำหลากที่ผ่านเข้าตัวเมืองชัยภูมิเริ่มมีจำนวนมากเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลอด 24 ชม.