ไล่จับ! ฉ้อโกงภาษี ใช้ใบกำกับภาษีปลอม สรรพากร-ดีเอสไอ ตั้งทีมล่าคดีพิเศษ

ไล่จับ! ฉ้อโกงภาษี ใช้ใบกำกับภาษีปลอม สรรพากร-ดีเอสไอ ตั้งทีมล่าคดีพิเศษ

หนาวแน่ ลุยไล่จับ! ฉ้อโกงภาษี ใช้ใบกำกับภาษีปลอม สรรพากร-ดีเอสไอ ตั้งทีมล่าคดีพิเศษ

สรรพากร จับมือ DSI ยกระดับความร่วมมือใช้ Data Analytics ปราบปรามการทำผิดคดีพิเศษฉ้อโกงภาษี โดยเฉพาะกรณีใบกำกับภาษีปลอม

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร และผู้บริหารระดับสูง ให้การต้อนรับ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้บริหารระดับสูง ได้หารือข้อราชการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกัน  เมื่อวานนี้
     
ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากร  และกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีบันทึกความตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคดีพิเศษ ที่ผ่านมา กรมสรรพากรและกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการประสานงานและปฏิบัติงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง 

กรมสรรพากร มีคดีสำคัญที่ต้องร่วมดำเนินการ เช่น คดีฉ้อโกงภาษีด้วยการใช้ใบกำกับภาษีปลอมหรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือกรณีออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิจะออกตามกฎหมาย เป็นต้น 

ขณะนี้กรมสรรพากรอยู่ระหว่างขับเคลื่อน 2 เรื่องสำคัญ คือ Digital Transformation และ Data Analytics ในการหารือกรมสรรพากรและกรมสอบสวนคดีพิเศษมีความเห็นร่วมกันว่าเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการรวบรวมพยานหลักฐานให้มีความรวดเร็ว  และลดขั้นตอนการปฏิบัติ รวมทั้งขยายขอบเขตความร่วมมือไปยังเรื่องอื่น ๆ จึงได้กำหนดประเด็นสำคัญที่จะร่วมกันดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานร่วมกัน ดังนี้

 

​     1. จัดให้มีการทำงานด้วยระบบ Data Analytics คือ การนำฐานข้อมูลด้านภาษีอากรมาวิเคราะห์แนวโน้มและพฤติกรรมที่ส่อไปในการกระทำความผิดร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ

​     2. การสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่ชั้นงานด้านการข่าว พัฒนาสู่การสืบสวน และการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่สำคัญเพื่อให้มีการปฏิบัติงานที่รวดเร็วและลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน

​     3. การฝึกอบรมและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับงานสรรพากรและการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งการเสริมทักษะเฉพาะด้านซึ่งกันและกัน เช่น การให้ความรู้เรื่องการตรวจติดตามทางบัญชี และการใช้เครื่องมือวิเคราะห์และสร้างความเชื่อมโยง (Notebook Analysis) ในการดำเนินการด้านภาษีอากร เป็นต้น

​     ทั้งนี้ ผู้บริหารทั้งสองฝ่ายเห็นร่วมกันว่าจะต้องมีการปฏิบัติงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น และจะมีการทบทวนบันทึกความตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคดีพิเศษให้มีความทันสมัย และครอบคลุมความร่วมมือในทุกมิติ