สสจ.ศรีสะเกษ เตือน "ออกพรรษา" สวมหน้ากากอนามัย-การ์ดอย่าตก

เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันออกพรรษา ของพี่น้องประชาชนชาวไทยพุทธ เดินทางมาร่วมทำบุญกันที่วัดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะทางภาคอีสาน และที่จังหวัดศรีสะเกษ ทั้ง 22 อำเภอ ภายใต้มาตรการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ต่างได้สวมหน้ากากพาลูกหลาน พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย มาเข้าวัดทำบุญตักบาตร ถวายภัตราหารเช้าแด่พระคุณเจ้า รับศีล รับพร ภายหลังจากที่พระสงฆ์ได้จำพรรษาครบ เป็นเวลา 3 เดือน และก็ได้มีประชาชนหลายคนที่ได้ถือโอกาสบำเพ็ญกุศลส่วนตัว ด้วยการถือศีล เข้าวัดตลอดช่วงฤดูกาลเข้าพรรษา ละเว้นการฆ่าสัตว์ ถือศีลตนเอง ด้วยการงดเหล้าในช่วงเข้าพรรษา ทาง สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เกิดความเป็นห่วงว่า หากในช่วงออกพรรษาใหม่ ประชาชนจะเดินทางไปร่วมทำบุญกันที่วัดเป็นจำนวนมาก อาจจะส่งผลให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ แพร่ระบาดของเชื้อโรคร้าย โรคโควิด-19 หากทุกคนไม่เฝ้าระวังป้องกันตนเอง ทั้งการเว้นระยะห่าง มั่นล้างมือ สวมหน้ากากทุกครั้งที่ออกจากบ้าน และโดยเฉพาะผู้ที่ถือศีล งดเหล้าช่วงเข้าพรรษา หากออกพรรษาอาจจะถือโอกาสฉลองความสำเร็จของตนที่ทน อดเหล้าได้ครบ 3 เดือน อาจจะเสี่ยงต่อสุขภาพ ในการงดเหล้ามานาน มาทานฉลองอาจจะเกิดอาการร่างกายช๊อคได้ หรือการถอดหน้ากากฉลองร่วมกัน อาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้

นพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขอบอกกล่าวไปถึงพี่น้องประชาชนทุกท่านนะครับว่า ในช่วงออกพรรษานี้จะมีพิธีทำบุญ โดยเฉพาะพุทธประเพณีอันสำคัญก็คือ งานบุญกฐิน ก็ขอฝากพี่น้องประชาชน ว่า สถานการณ์โควิด แม้ว่าจะทุเลาเบาบางไปแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังมีผู้ที่ติดเชื้อในเขตพื้นที่ของจังหวัดศรีสะเกษ และในทุกจังหวัดของประเทศไทย ดังนั้นก็จะต้องเน้นย้ำว่า ในการไปทำบุญที่วัด ไปร่วมงานพุทธประเพณีบุญกฐิน ยังคงจะต้องปฎิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข มาตรการของ ศบค.ในเรื่องของการป้องกัน ควบคุมโควิด-19 อันแรกเลยการไปทำบุญที่วัด ต้องเว้นระยะห่าง อย่างเช่นการทอดกฐิน ต้องไปทำพิธีในโบสถ์ ซึ่งมีพื้นที่จำกัด ต้องกำจัดจำนวนคนที่จะเข้าไปในโบสถ์ 25 ไม่เกิน 50 คน แล้วแต่ขนาดของโบสถ์ และทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย พร้อมต้องมั่นล้างมือบ่อยๆ ซึ่งจะต้องประสานกับผู้ที่จัดงาน ทางวัดว่า จะต้องมีเจลแอลกอฮอร์ไว้ให้ทุกคนได้ล้างมือ ทำความสะอาด วัดอุณภูมิ

ส่วนสำคัญที่สุดก็คือเรื่องการฉีดวัคซีน ในมติของพระมหาเถระสมาคม แจ้งว่าผู้ที่จะไปร่วมงานบุญ งานกฐิน ที่วัด ควรจะผ่านการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม และผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด จะต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด ภายใน 72 ชั่วโมง และต้องไม่พบเชื้อ เป็นการตรวจ ATK หรือ ตรวจ RC - PCR และหากไปร่วมงานบุญแล้ว เดินทางกลับบ้าน ไปพบปะพี่น้องญาติๆ ก็ไม่อยากจะให้มีการเลี้ยงสังสรรค์ โดยเฉพาะการดื่มสุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอร์ หรือ การจัดงานบุญกฐิน ต่างๆ ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการเลี้ยงสังสรรค์ หรือดื่มสุรา ซึ่งถ้าทุกคนปฎิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ทุกคนก็จะรอดปลอดภัยแน่นอน ขอว่าช่วงออกพรรษานี้ การ์ดอย่าตกกันในทุกวัด ทุกพื้นที่เลย เมื่อทุกคนเฝ้าระวัง ทุกคนก็จะปลอดภัย