อัพเดท "ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว" เจ้าของโรงงานขอสู้ต่อ ลั่นไม่คิดลอยแพ พนง.

อัพเดท "ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว" เจ้าของโรงงานขอสู้ต่อ ลั่นไม่คิดลอยแพ พนง.

เจ้าของโรงงานรองเท้า ออกมาเคลื่อนไหวยืนยัน ไม่มีแนวคิดที่จะปิดกิจการโรงงานแต่อย่างใด ชี้อาจเป็นการเข้าใจผิด จากเหตุการณ์ "ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว" ในซอย "กิ่งแก้ว" 9 ข. ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

จากเหตุการณ์ "ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว" ซึ่งเป็น "โรงงาน" ผลิตรองเท้า บริษัท วัฒนา ฟูตแวร์ จำกัด ในซอย "กิ่งแก้ว" 9 ข. ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ล่าสุด เจ้าของโรงงานยืนยันว่า ไม่มีแนวคิดที่จะปิดกิจการโรงงานแต่อย่างใด 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- "ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว" พนง. 200 ชีวิตร่ำไห้ตกงานฟ้าผ่า บริษัทขอปิดกิจการ

- ลุยสอบสวน โรงงานผลิตรองเท้าย่านกิ่งแก้ว เหตุไฟไหม้หวั่นซ้ำรอย "หมิงตี้"

- ไฟไหม้โรงงานผลิตรองเท้าย่านถนนกิ่งแก้ว เสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

 

ก่อนหน้านี้ มีการเปิดเผยว่าหลังจากเกิด เหตุการณ์ "ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว" ซึ่งเป็น "โรงงาน" ผลิตรองเท้า ทำให้โรงงานประกาศปิดกิจการทันที ส่งผลทำให้พนักงานโรงงานกว่า 200 คนต้องตกงานแบบกะทันหัน และมีการระบุเพิ่มเติมว่า พนักงานจะได้รับค่าจ้างเพียงค่าตอบแทนเดือนนี้เป็นเดือนสุดท้าย 

 

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่าสุด นายกิตติ จงสถิตย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการของโรงงาน เปิดเผยว่า จากข่าวที่มีพนักงานบางคนให้ข่าวว่า ทางโรงงานขอปิดกิจการ และจ่าค่าตอบแทนเพียงเดือนสุดท้ายเท่านั้น ตนขอชี้แจงว่าตนไม่มีแนวคิดที่จะปิดโรงงาน

 

ตนสร้างธุรกิจนี้มากว่า 30 ปี ดูแลพนักงานตามกฎหมายมาตลอด จนพนักงานหลายต่อหลายคนอยู่กันมานานถึง 30-40 ปี แต่การช่วยเหลือต้องขอเวลาให้ทางโรงงานรวบรวมข้อมูลในหลายๆด้าน เพื่อประเมินสถานการณ์ของทางโรงงานก่อน

 

อาจเป็นเพราะข้อความห่วงใยของตนที่บอกผ่านเจ้าหน้าที่ไปถึงพนักงานว่า ตอนนี้โรงงานไฟไหม้ จึงต้องขอปิดก่อนให้ทุกคนกลับบ้าน และจะจ่ายเงินเดือนของเดือนนี้ตามปกติ ส่วนเดือนถัดไปค่อยมาหารือกันใหม่อีกครั้ง จนมีพนักงานบางคนฟังไม่เข้าใจแล้วไปให้ข่าว

 

แต่ถ้าถึงจุดที่ทางโรงงานไม่มีทางออก และต้องปิดกิจการจริงๆตนก็ขอยืนยันว่า จะชดเชยให้พนักงานทุกคนตามกฎหมายแน่นอน

 

 

ส่วนเรื่องมีกระแสข่าวว่า เผาเอาเงินประกันหรือไม่ ในเรื่องนี้ตนยืนยันว่าไม่เคยมีความคิดแบบนี้ในหัวของตนเลย ตนสร้างธุรกิจนี้มาค้าขาย และทุกวันนี้ ถึงจะมีผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ทางโรงงานของเราก็ยังมียอดขายเดือนละ 10-20 ล้านบาท (จากเดิมเดือนละ 40 ล้านบาท)

 

ส่วนกรณีที่ว่า มีสารเคมีภายในโรงงานขณะเกิดเพลิงไหม้ ฟุ้งกระจายไปในอากาศนั้น ตนยืนยันว่า สารเคมีบางชนิดที่ใช้ในการผลิต เช่น ทินเนอร์ ซึ่งมีปริมาณไม่มาก ทางโรงงานจัดซื้อมาเท่าที่ใช้ในการผลิตเท่านั้น ไม่มีการสั่งมาเก็บสต็อก 

 

และขณะเกิดเพลิงไหม้ และหลังเกิดเพลิงไหม้ ทางกรมควบคุมมลพิษได้มาตรวจวัด และมีผลรับรองออกมาแล้วว่าไม่เกินระดับอันตรายต่อสุขภาพ และทางโรงงานเองก็ได้ทำประกันภัยไว้วงเงิน 142 ล้านบาท ซึ่งต้องเจ้าหน้าที่หลายๆฝ่ายเข้าตรวจสอบร่วมกัน เพื่อเป็นหลักฐานว่าสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้มาจากสาเหตุใดกันแน่

 

ส่วนความคืบหน้าวันนี้ (21 ตุลาคม 2564) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบภายในบริษัทที่เกิดเหตุไฟไหม้พบว่า เครื่องจักรเกิดความเสียหายจากความร้อนเกือบทั้งหมด โครงสร้างของอาคารเสียหาย ซึ่งทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ ได้ออกหนังสือให้หยุดประกอบกิจการทั้งหมด มาปิดประกาศไว้ที่หน้าโรงงานตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว